วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

[283] เรื่องส่วนตัวที่ผมอยากเล่า

สวัสดีครับ
ผมเริ่มทำ Blog นี้มาตั้งแต่ปลายปี 2549 ตลอดช่วงเวลากว่าปีครึ่งที่ผ่านมานี้ ผมมีความสุขมากกับการหาเรื่องมาเขียน และมีความสุขมากขึ้นเมื่อมีท่านผู้อ่านบอกว่าได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ผมเขียน  

ผู้อ่านหลายท่านที่เขียนถึงผมผ่าน Blog นี้หรือทางอีเมลแม้จะไม่ได้ลงชื่อหรือลงชื่อสมมุติ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกห่างเหินกับท่านผู้อ่าน ในใจผมรู้สึกใกล้ชิด แม้ความรู้สึกใกล้ชิดนี้จะเป็นนามธรรมที่ชั่งตวงวัดไม่ได้ก็ตาม

ก่อนที่จะมาเขียน Blog นี้ ระหว่างปี 2546 – 48 ผมเคยเขียนแนะนำเว็บเรียนภาษาอังกฤษ ส่งไปลงที่เว็บบอร์ดของ www.budpage.com โดยใช้ชื่อ 'KLMN' แต่ตอนหลังเลิกเขียนเพราะผมเขียนไปลงบ่อยเกินไปจนแย่งเนื้อที่ post ของผู้อ่านท่านอื่น และทำให้เว็บบอร์ดของ budpage.com ด้อยความหลากหลาย เพื่อตัดปัญหาผมจึงหยุดส่งไปลงที่นั่น แต่ประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่ได้รับจากการเขียนลงที่เว็บบอร์ดของ budpage.com ก็คือ ผมได้ฝึกการ Search หาเว็บเรียนภาษาอังกฤษที่ต้องการได้เร็วขึ้น มากขึ้น และตรงตามที่ต้องการมากขึ้น ทักษะที่ได้มานี้เป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อผมมาทำ blog นี้

ท่านที่เข้ามาอ่านเว็บนี้บ่อย ๆ จะสังเกตได้ว่า ผมแทบไม่ได้เขียนอะไรเกี่ยวกับตัวเองไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนข้อมูลของผู้ทำ blog หรือในข้อเขียนที่ post อาจจะแทรกบ้างก็มีเพียงประสบการณ์ในการเรียนหรือใช้ภาษาอังกฤษของผมเพื่อ ประกอบการอธิบาย เหตุผลสั้น ๆ ตรง ๆ ก็คือ ผมไม่อยากให้ท่านผู้อ่านต้องเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการ เรียนภาษาอังกฤษของท่าน ท่านจะได้ไม่ต้องเผลอไปอ่านหรือเผลอไปคลิกให้เสียเวลา
  
แต่เมื่อเดือนที่แล้วผมไม่สบาย น่าจะเรียกว่าไม่สบายมาก มันคงเป็นผลรวมของหลายโรครวมกัน คือ เบาหวานชนิดฉีดอินซูลินที่เป็นมา 20 ปี ความดันโลหิตสูงที่กินยาประจำมาครึ่งปี กล้ามเนื้ออักเสบที่ปุบปับเป็นทันทีที่ซีกซ้ายของร่างกาย กระเพาะอาหารเป็นแผลนิดหน่อยซึ่งตรวจพบหลังส่องกล้อง โรคตาที่ต้องฉายแสงเลเซอร์ 2 – 3 ครั้ง มันรวมพลังแสดงอาการพร้อมกันทันทีทำให้ผมไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ผมก็เลยพักงานที่ทำประจำที่ office และที่ blog นี้

แต่แม้ผมจะไม่ได้บอกท่านผู้อ่านว่าผมเป็นอะไร แต่ข้อความแสดงความเป็นห่วงมากมายที่ได้รับจากท่านผู้อ่านทั้งที่ผ่าน Blog และอีเมลทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ไม่ใช่เพื่อนก็เหมือนเพื่อน เหมือนเป็นทั้งเพื่อนและญาติ

ผมมาคิดอีกที ผมเขียนข้อความใน blog นี้มากว่า 700 เรื่องแล้ว ถ้าจะเอาเรื่องส่วนตัวมาเขียนแทรกลงไปสักเรื่องหนึ่ง ท่านผู้อ่านคงไม่ว่าอะไร อาจจะถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องแนวเดิม ๆ ที่อ่านอยู่ประจำก็ได้ และที่สำคัญก็คือ ผมรู้สึกว่าชีวิตกลางอ่อนกลางแก่ของผมนี้เป็นชีวิตที่มีความสุขค่อนข้างมาก และมีรสชาติค่อนข้างแปลก และผมอยากแบ่งปันกับท่านบ้าง จะเรียกว่าผมเล่าประวัติส่วนตัวก็ได้ครับ เมื่อท่านอ่านจบท่านอาจจะได้ไอเดียว่าน่าจะเขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยกับผม

ผมเป็นคนลุ่มน้ำแม่กลองแต่ก็เป็นลูกน้ำเค็ม ตอนเด็กถ้าเปรียบเทียบฐานะครอบครัวของผมกับครอบครัวอื่นในหมู่บ้านเดียวกัน ก็ต้องถือว่าครอบครัวของผมเป็นครอบครัวคนจน มานั่งนึกในนาทีนี้ผมอดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกเป็นปมด้อยหรือน้อยเนื้อต่ำใจแม้แต่นิดเดียวในความจน ของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะว่าผมเห็นพ่อแม่ทำงานหนัก และทั้งพ่อและแม่ก็ใช้ให้ลูก ๆ คือพี่สาว ตัวผม และน้องชายมีงานที่จะต้องทำเสมอ ทั้งงานบ้านและงานอาชีพจุนเจือรายได้ครอบครัว อาจจะเป็นเพราะความภูมิใจนิด ๆ หน่อย ๆ ในหน้าที่ก็ได้ที่ทำให้เราไม่มีเวลาไปคิดทางลบในเรื่องไร้สาระ นี่ผมลองตีความเอาเอง มันอาจจะผิดก็ได้ครับ อ้อ ลืมบอกไป บ้านเราทำอาชีพขายของชำหรือโชวห่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ

พ่อเป็นคนพูดน้อย แม่เป็นคนพูดมากและชอบพูดเล่น พี่สาวและน้องชายผมตัวขาวและพูดน้อยกว่าเหมือนพ่อ ส่วนผมตัวดำและพูดมากกว่าเหมือนแม่ และความชอบเรียนภาษาน่าจะติดมาจากแม่ด้วยเช่นกัน สมัยโน้นตอนพูดกับลูกค้าคนจีนแม่ก็พูดจีนได้นิด ๆ หน่อย ๆ สมัยนี้แม่ไม่ต้องทำงานแล้วแต่ชอบนั่งอยู่ที่เก๊ะเก็บเงินในร้านโชวห่วยที่ พี่สาวกับพี่เขยเป็นเจ้าของร้าน พอมีลูกค้ามอญต่างถิ่นเข้ามาซื้อของ แม่ก็พูดภาษามอญได้นิด ๆ หน่อย ๆ ดูเหมือนแม่จะมีความสุขกับการได้พูดภาษาต่างชาตินิด ๆ หน่อย ๆ อย่างผิด ๆ ถูก ๆ ตามประสาของแก ผมเห็นแกพูดไปยิ้มไปหัวเราะไป ผมไม่สามารถพูดภาษาจีนหรือภาษามอญได้ ‘นิด ๆ หน่อย ๆ’ เหมือนแม่ แต่ผมชอบเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อยู่ชั้น ป.เตรียม(ชั้นอนุบาลสมัยก่อน) และดูเหมือนแม่ก็ชอบใจอยู่ที่ผมชอบภาษาอังกฤษ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมไปเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษซึ่งที่ทำงานส่งไป มีอยู่ชั่วโมงหนึ่งอาจารย์ฝรั่งถามผมว่า ทุกวันนี้ผมจำศัพท์ใหม่เพิ่มได้วันละกี่คำ ผมชะงักและตอบไม่ถูกเพราะเมื่ออ่านหนังสือพิมพ์ คือ Bangkok Post หรือ The Nation ผมรู้สึกว่าผมแทบไม่ได้เจอศัพท์ใหม่เลย แต่เมื่อส่องกล้องดูความคิดของตัวเองให้ชัดลงไปอีกหน่อย ก็ได้พบความจริงว่าผมคิดผิด เพราะทุกวันหรือทุกครั้งที่อ่านหนังสือ ผมพบศัพท์ใหม่หรือความหมายใหม่ของศัพท์เก่าตลอดเวลา ในขณะที่ความจำของผมน้อยลงเพราะผมชักแก่แล้ว แต่สิ่งที่มาชดเชยความจำที่หดหายไปก็คือความสามารถในการเดาคำศัพท์ที่มีมากขึ้น และที่ผมเดาได้ก็เพราะผมตุนจำศัพท์ไว้เยอะสมัยที่อายุยังน้อยและความจำยังดี ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับสมัยที่ผมอยู่ชั้นประถม ถ้าครูให้หนังสือมาให้ผมอ่าน 1 หน้า เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงผมสามารถท่องจำได้ และออกไปยืนที่หน้าชั้นและพูดข้อความที่ท่องมาได้ถูกต้องโดยไม่ผิดแม้แต่ตัวเดียว ผมยังจำ comment ของครูได้ดี ท่านบอกว่าตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ความจำก็ดีอย่างนี้แหละ พออายุมากขึ้นจะจำไม่ได้อย่างนี้ นาทีนั้นผมไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะเป็นอย่างที่ครูพูด แต่ครูก็ไม่ได้โกหกผม นี่แหละครับใน post หลายครั้งใน blog นี้ผมถึงได้บอกน้อง ๆ ว่า ตอนนี้ความจำยังดีอยู่ก็พยายามจำศัพท์ไว้ให้ได้เยอะ ๆ เพราะถ้ามาเริ่มจำตอนอายุมากอาจจะช้าเกินไป นี่ผมก็ไม่ได้โกหกเหมือนกันครับ 

แล้วผมก็ได้เข้าเรียนธรรมศาสตร์เมื่อจบ มศ.5 เข้าคณะวารสารศาสตร์ เลือกเอกหนังสือพิมพ์ ผมแทบไม่ได้อะไรจากวิชาที่สอนในคณะนี้เลย เพราะเข้าไปแล้วถึงได้รู้ว่าไม่ชอบ แต่สิ่งที่ได้มาแน่ ๆ คือจิตวิญญาณของการเป็นนักหนังสือพิมพ์ ผมจึงรักที่จะให้คนไทยได้รับทั้ง news และ view (ข่าวและความเห็น) ที่ทั้งถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ลำเอียง รั้วธรรมศาสตร์ในยุคผมเป็นยุคที่ทหารไม่อยากเดินเข้าไป เพราะมักถูกมองด้วยสายตาที่ชิงชังและดูถูก ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยเพราะเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน แต่ผมก็ถือว่าธรรมศาสตร์สอนให้คนรุ่นผมมีเลือดเหลืองแดงที่เข้มข้น ในความเห็นของผมเพลงที่สำคัญที่สุดของความเป็นธรรมศาสตร์ คือ ‘เพลงมอญดูดาว’ ทุกวันนี้ผมยังจำความรู้สึกครั้งแรก ๆได้ดีที่ร้องเพลงนี้กับเพื่อน ๆ เมื่อไปออกค่ายหรือทำกิจกรรมในต่างจังหวัดไกล ๆ ที่เล่ามาเช่นนี้มิได้หมายความว่าธรรมศาสตร์ดีกว่าที่อื่น เพียงแต่ผมรู้สึกภูมิใจในความเป็นธรรมศาสตร์ของตัวเองเอามาก ๆ

เรื่อง การเรียนในรั้วธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ อาจารย์ที่ปรึกษาที่คณะของผมท่านบอกเมื่อผมพบท่านครั้งแรก ๆ ว่า ท่านเดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมาแล้วทั่วโลก และท่านสามารถพูดได้เลยว่า ‘ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่น่าจะทำอะไรก็ได้ ยกเว้นเรียนหนังสือ’ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมประทับใจในคำพูดของอาจารย์ที่ปรึกษามากเกินไปหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ผมจึงแทบไม่ได้เข้าชั้นเรียนเลย และใช้เวลาเรียนถึง 5 ปี จบออกมาด้วยเกรด 2.3

เมื่อเวลาส่วนใหญ่มักไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ผมใช้เวลาทำอะไรใน 5 ปีนี้ ก็ใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมของชมรม การฟังสัมมนาอภิปรายเกี่ยวกับสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งมีบ่อยมากในรั้วธรรมศาสตร์ยุคนั้น การออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทต่างจังหวัด หรือการอ่านหนังสือในห้องสมุดหรือนอกห้องสมุด อยากจะพูดว่า ในช่วงเพียง 5 ปีที่อยู่ธรรมศาสตร์นี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมอ่านหนังสือมากที่สุดในชีวิต ทั้งปริมาณและคุณภาพ มันเป็นความตื่นเต้นครับที่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่รักการอ่านมาพบสถานที่ซึ่ง บรรจุหนังสือเป็นแสน ๆ เล่ม และเป็นภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทย จุดนี้เองแหละครับที่เป็นจุดบันดาลใจของผม ก็คือว่า ตอนผมเริ่มเรียนปี 1 ผมบอกตัวเองว่าก่อนขึ้นปี 2 จะต้องอ่าน Bangkok Post ให้รู้เรื่องเหมือนอ่านไทยรัฐ ฉะนั้นแทบทุกวัน เมื่อกลับถึงที่พักผมจะนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ เอาเชือกผูกเอวตัวเองไว้กับพนักเก้าอี้ และอ่านให้จบอย่างน้อย 1 หน้าก่อนลุกไปไหน ถ้าจะลุกก่อนจบก็ต้องเอาเก้าอี้ไปด้วย ทำอย่างนี้จนเรียนจบปี 1 ผลปรากฏว่าก็ยังไม่สามารถบันดาลให้ Bangkok Post กลายเป็นไทยรัฐไปได้ แต่… มันอ่านรู้เรื่องมากขึ้นเยอะและคุ้มค่ากับความพยายาม มีอยู่หลายครั้งที่ผมไปอ่านพบหนังสือบางเล่มในห้องสมุด ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าเนื้อหาในหนังสือเหล่านั้นถ้าตีพิมพ์เป็นภาษาไทย คนไทยที่เขียนคนนั้นจะต้องถูกจับเข้าคุกแน่ ๆ ในสถานการณ์การเมืองขณะนั้น และหนังสือก็จะถูกยึดไม่มีใครได้อ่าน แต่การที่ผมได้อ่านเพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ คงไม่ใช่เพราะว่าเจ้าหน้าที่เคจีบีเมืองไทยช่วงนั้นอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกหรอกครับ แต่อาจจะเป็นเพราะมันลอดหูลอดตาการตรวจพบ หรือเขาอาจจะเห็นว่า คงมีไม่กี่คนที่พลิกเข้าไปอ่านหน้านั้น เขาก็เลยปล่อยให้หนังสือเหล่านั้นบางเล่มวางอยู่บนชั้นหนังสือในห้องสมุด

เรื่อง การฝึกภาษาอังกฤษโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทสนทนา หรือ conversation นี่นะครับ เด็กสมัยนี้โชคดีกว่าสมัยนั้นเยอะแยะเลยครับ เพราะมีสารพัดสื่อที่ช่วยสอนทักษะให้เราได้ง่าย ๆ มันทะยอยมาตามลำดับครับ ตั้งแต่เทปคาสเซ็ทเป็นตลับ ม้วนวีดิโอ CD เคเบิ้ลทีวี และอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ทุกอย่างเล็กลง ถูกลง ใช้ได้สะดวกขึ้น ท่านเชื่อไหมครับว่าตลอดช่วง 5 ปีที่ธรรมศาสตร์ ผมไม่เคยมีโอกาสได้เรียน listening – speaking กับอาจารย์ฝรั่งเลย เพราะวิชานี้มีคนจ้องจะเรียนกันเยอะ และจะต้องได้บัตรโควตาจึงจะได้เรียน พวกนักศึกษาผู้หญิงและเกย์เขาไวมากครับ และส่วนใหญ่ก็เป็นพวกนี้แหละครับที่ได้เรียน แต่เอาเถอะแม้แย่งบัตรโควตาเพื่อเรียน listening – speaking ไม่ได้ ผมก็เรียนภาษาอังกฤษวิชาอื่น ๆ เช่น grammar หรือ reading และเพราะได้เกรด A หรือ B เป็นส่วนใหญ่จากวิชาภาษาอังกฤษพวกนี้จึงทำให้ผมไม่ต้อง retire และจบออกมาได้ด้วยเกรดเกิน 2.0

หลังเรียนจบ ผมได้งานราชการและทำงาน 10 ปีในต่างจังหวัด งานที่ทำพาผมไปที่จังหวัดสงขลา ระนอง สกลนคร นครพนม สมุทรสงคราม และเพชรบุรี เป็นงานพัฒนาชนบทที่ต้องลงไปคลุกคลีใกล้ชิดกับคนต่างจังหวัด คนที่จนจริง ๆ ตอนนี้ฐานะทางบ้านของผมดีขึ้น แต่คนจนที่ผมไปทำงานด้วยเขาจนมากกว่าครอบครัวของผมเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วซะอีก ทุกวันนี้เมื่อพบคนจนที่มาจากภาคอื่นในกรุงเทพ ผมจึงรู้ว่าความ ‘จน’ เป็นอย่างไร คนที่โชคดีเพราะมีฐานะสูง แต่ไม่ยอมเอื้อใจให้คิดยาวออกไปถึงคนที่จนกว่ามาก ๆ คนพวกนี้จะไม่มีวันรู้จักเพื่อนคนไทยและเมืองไทยหรอกครับ เพราะคนไทยและเมืองไทยที่เขารู้จักเป็นคนละกลุ่มและคนละเมืองกับที่คนจนรู้จัก

ท่านผู้อ่านเห็นด้วยกับผมไหมครับว่า บางครั้งเคราะห์ร้ายในชีวิตก็อาจจะเป็นโชคดีอย่างมหาศาลถ้าเรามองอีกแง่หนึ่ง เมื่อผมทำงานได้ไม่กี่ปีที่จังหวัดระนองผมต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคดีซ่าน หรือตับอักเสบ มันเป็นเรื่องน่าตลกนะครับเพราะปกติผมเป็นคนแข็งแรงมาก ก่อนหน้านั้นผมแทบไม่เคยกินยามาเลยในชีวิต ผมไม่เคยปวดเมื่อย ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้ ท้องเสีย อะไรทั้งสิ้น และวิ่งออกกำลังกายทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนทักว่าตาเหลือง ๆ น่าจะลองไปหาหมอ ผมก็ไปหาอย่างเสียไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนว่า หมอตรวจร่างกายแล้วก็บอกว่าผมเป็นโรคตับอักเสบชนิดเรื้อรัง เขาใช้ศัพท์หมอว่า chronic ผมได้ข้อสรุปว่านี่เป็นสิ่งที่คนแข็งแรงควรระวัง เพราะความแข็งแรงของท่านอาจจะกลบอาการของโรคบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ ฉะนั้นพาร่างกายของตัวเองไปตรวจสุขภาพบ้างก็ดีนะครับ

ด้วยความหวังดี เพื่อนจึงติดต่อให้ผมเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงว่าคุณภาพดี หมอสั่งให้พยาบาลให้ผมกินยาสเตียรอยด์เป็นเวลา 6 วันและหยุดยา แต่พยาบาลคงลืมและไม่ได้หยุดยา และให้ผมกินไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 16 คืนก่อนที่ผมจะช็อกผมร้อนไปทั้งตัว ผมบอกให้เพื่อนสนิทที่มาเฝ้าเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ชุบน้ำจากอ่างพลาสติกใบเล็กที่อยู่ข้างเตียงและเช็ดตัวให้ผมตลอดเวลา คืนนั้นเป็นคืนวันเสาร์ จนเลยเที่ยงคืนแล้วเพื่อนก็หลับไปในห้องนั้นแหละ แต่ผมก็เอาผ้าขนหนูชุบน้ำจากอ่างและอามาลูบตัวเองโดยไม่รู้ตัวตลอดทั้งคืน รุ่งเช้าเป็นวันอาทิตย์ เพื่อนผมซึ่งเป็นพยาบาลที่ห้องไอซียูที่โรงพยาบาลนั้นรีบมาเยี่ยมผมแต่เช้า แต่เขาติดต่อหมอไม่ได้เลย อาจจะเป็นเพราะเป็นเช้าวันอาทิตย์ก็ได้หมอก็เลยมาตรวจช้า เธอเข็นผมไปเข้าห้องไอซียูและปั๊มหัวใจให้โดยไม่ได้รอให้หมอสั่ง ซึ่งถือว่าโชคดีเพราะถ้ารอหมอสั่งผมคงตายไปตั้งแต่เช้าวันนั้นแล้ว

ผมพักอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นอีกกว่า 2 เดือน ช่วงที่ผมเริ่มรู้สึกตัวใหม่ ๆ ผมรู้สึกเพลียมากและขี้เกียจหายใจ ผมขอเรียนว่านี่คือประสบการณ์พิเศษจริง ๆ ความรู้สึกที่บอกตัวเองว่าไม่เจ็บแต่อ่อนล้าเหลือเกิน ไม่อยากหายใจแล้ว จะตายก็ตายไปเถอะ ความรู้สึกเช่นนี้มิใช่หลายคนนักที่จะโชคดีมีโอกาสได้เจอ ช่วงที่ยังสลึมสลืออยู่บนเตียงนั้น รู้สึกว่ามีใครสักคนหนึ่งมายืนที่ข้างเตียงและถามผมว่า ‘กลัวตายไหม’ แปลกนักที่ผมจำคำตอบของตัวเองได้ชัดเจนว่า ‘ไม่กลัว’ โชคดีอย่างยิ่งที่หลังจากนั้นผมพ้นขีดอันตรายอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกที่ตรึงแน่นในใจก็คือ นี่เหมือนการตายแล้วเกิดใหม่ ตอนนี้เพิ่งอายุ 25 ปี แต่ชีวิตต่อจากนี้ทุกวันคือกำไร ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ทุกวันคือกำไรของชีวิต

วันนี้ ห่างจากวันนั้นมากว่า 20 ปีแล้ว ชีวิตในช่วงที่ผ่านมาก็มีขึ้นมีลงตามลีลาของมัน แต่เหตุการณ์ที่เฉียดความตายมันเหมือนให้พลังอะไรบางอย่างแก่ชีวิต ผมอยากจะเรียกว่ามันเป็นพลังของการปล่อยวาง จากที่เคยคิดว่าชีวิตนี้มั่นคงและยืนยาว กลายมาเห็นชัดว่าชีวิตนี้เปราะบาง... เปราะบางยิ่งนัก เราไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะตายเมื่อไร

ออกจากโรงพยาบาลในกรุงเทพแล้วผมกลับไปทำงานพัฒนาชุมชนเช่นเดิมที่จังหวัดระนอง เขาเรียกผมว่าเป็น ‘พัฒนากร’ และไม่นานนักภาวะเฉียดตายก็มาเยี่ยมผมอีก

ใน ยุคนั้นจังหวัดระนองไม่ได้บูมเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเช่นทุกวันนี้ พื้นที่ที่ผมรับผิดชอบเป็นเกาะนอกชายฝั่งระนองในทะเลอันดามัน 4 เกาะ ผมต้องขออาศัยเรือหาปลาจากฝั่งให้ไปแวะส่งผมที่เกาะ และขากลับบางทีเรือหาปลาก็แวะที่เกาะเพื่อขอยาจากสถานีอนามัยบนเกาะ ผมก็ขออาศัยกลับเข้าฝั่งด้วย ระหว่างเกาะกับฝั่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง

และวันหนึ่งในเดือนเมษายน ผมได้ขออาศัยเรือประมงเข้าฝั่ง จำได้ว่าเป็นเวลากลางคืน ลมพัดเย็นสบายและจันทร์กระจ่างฟ้า ผมปีนขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าเรือเพื่อกินลมและชมจันทร์กลางทะเลที่หลับเพราะคืนนั้นไม่มีคลื่นเลย ใครที่บอกว่าทะเลไม่เคยหลับเขาคงไม่เคยอยู่ทะเลนาน ๆ จึงไม่รู้ว่าทะเลก็มีเวลาหลับ และยามทะเลหลับยอมให้แสงจันทร์และลมเย็นลูบไล้นั้น ช่างเป็นความงดงามจริง ๆ

เวลาประมาณ 5 ทุ่ม เรือเริ่มเข้าสู่ปากอ่าว ผมเริ่มหนาวเพราะนั่งสัมผัสลมเย็นมานานหลายชั่วโมง จึงปีนจากดาดฟ้าเพื่อจะลงมาข้างล่าง ทันใดนั้นไม้ราวขนาดไม่ใหญ่นักซึ่งอยู่ด้านบนสุดของดาดฟ้าเกิดหัก ผมหล่นจากดาดฟ้าล่วงลงไปในทะเลโดยไม่ได้กระแทกแคมเรือ เสียงดังของเครื่องยนต์กลบเสียงทั้งหมดที่ผมตกลงไปในน้ำทะเล ร่างจมลงไปใต้น้ำ พอถีบตัวให้ขึ้นมาถึงผิวน้ำก็ได้เห็นว่าเรือแล่นไปข้างหน้าไกลแล้ว

‘โชคดี’ ครั้งที่สองของผมนี้เกิดขึ้นในภาวะมีผมมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ผมมองจุดที่กำลังว่ายอยู่ในน้ำกับแสงไฟที่อยู่บนฝั่งกับเรี่ยวแรงที่ตัวเองมีอยู่ ผมบอกตัวเองได้เลยว่าผมไม่ตายแน่ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงคือการว่ายน้ำในทะเลอันดามันเข้าสู่ฝั่ง ผมถึงฝั่งอย่างปลอดภัยและเหนื่อยอ่อน มารู้ตอนหลังว่าตอนที่ผมตกทะเลมีคนบนเรือคนเดียวที่เห็น เขาเป็นกรรมกรประมงชาวพม่า เขาพยายามไปบอกนายท้ายว่าผมตกทะเล แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะพูดกันรู้เรื่องเพราะต่างไม่รู้ภาษาซึ่งกันและกัน ท้ายที่สุดเรือลำนั้นก็วนกลับเพื่อมาหาผม แต่ก็หาไม่พบหรอกครับเพราะมันกลางคืนอย่างนั้น ผมตกทะเลตรงไหนก็ไม่รู้ นายท้ายก็เลยแล่นเรือต่อไปเพื่อไปจอดที่ท่าเรือบ้านเถ้าแก่ของเขา ส่วนผมก็ว่ายน้ำตามประสาของผมไปยังฝั่งที่เห็นแสงไฟ ท่านอาจจะถามว่า ทำไมไม่ว่ายรออยู่ตรงนั้นเพื่อให้เรือย้อนกลับมารับ ท่านที่ว่ายน้ำเป็นคงจะทราบว่าเพียงแค่ใช้แรงพยุงตัวเพื่อให้ลอยอยู่ได้และ รออย่างลม ๆ แล้ง ๆ เพื่อให้เรือกลับมารับ กับการออกแรงว่ายเข้าฝั่งผมเลือกทำอย่างหลังดีกว่า

ตอนว่ายอยู่ในทะเลผมไม่ตกใจเพราะรู้ว่าถึงจะไกลและเหนื่อย ยังไงก็ไม่จมน้ำตายและว่ายถึงฝั่งก่อนหมดแรงแน่ ๆ แต่พอมาคิดว่า ถ้าผมปีนจากดาดฟ้าลงมาข้างล่างก่อนหน้านั้นสักหนึ่งชั่วโมง ผมคงเป็นผีเฝ้าทะเลแน่ ๆ เพราะทะเลน้ำลึกว่ายยากกว่าแถบชายฝั่งที่น้ำตื้นและกำหนดทิศทางได้ยากกว่า

เหตุการณ์เฉียดตาย 2 ครั้งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตภายในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันนัก และในช่วงวัยที่ผมยังไม่ควรตาย ทำให้ผมตระหนักแน่นในความไม่แน่นอนของชีวิต ‘ความตายเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน’ คำพูดนี้สำหรับผมไม่ได้เป็นปรัชญากลวง ๆ แต่เป็นความจริงที่หนักแน่น ชัดเจน แจ่มแจ้งยิ่งกว่าคำพูดบรรยายใด ๆ ทั้งสิ้น และเป็น ‘ความรู้’ ที่ติดตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้

ผมย้ายไปทำงานอีกหลายจังหวัดตามที่เรียนไว้แต่ต้น บทสรุปง่าย ๆ เรื่องฐานะของคนต่างภาคในประเทศไทยที่ผมได้รับจากการทำงานในภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคกลางก็คือ ภาคอีสานจนที่สุด เป็นบทสรุปที่ใคร ๆ ก็รู้ แต่ในขณะที่บางคนบอกว่าคำตอบของชาวบ้านอยู่ที่หมู่บ้าน ผมกลับขอยืนยันว่า คำตอบของหมู่บ้านอยู่ในสภาฯ - อยู่ใน ครม. แต่เอาเถอะ ผมขอหยุดพูดพาดพิงถึงการเมืองไว้เพียงแค่นี้แล้วกันครับ บางครั้งอะไรต่ออะไรมันสับสนและซับซ้อนมากจนผมไม่กล้าด่วนสรุปว่าอะไรคือ อะไร

ช่วงเวลา 10 ปีที่ผมอยู่ต่างจังหวัด ผมไม่มีโอกาสได้ฝึก speaking listening หรือ writing เลย เพราะไม่รู้จะไปพูด ไปฟัง ไปเขียนกับใครที่ไหน Buddy คู่กายในการฝึกภาษาอังกฤษของผมก็คือ หนังสือพิมพ์ Bangkok Post หรือ The Nation และก็ฝึกอย่างเดียว คือ reading เท่านั้น

หลังจาก 10 ปีที่ทำงานที่ ‘บ้านนอก’ ผมย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพ แต่ช่วง 15 ปีที่อยู่ในกรุงเทพ งานที่ทำกลับตรงกันข้ามกับ 10 ปีแรกโดยสิ้นเชิง คือเป็นงานที่เกี่ยวกับ ‘เมืองนอก’

งานที่ทำบังคับให้ผม ต้องติดต่อโต้ตอบโดยการคุยกับและเขียนถึงชาวต่างประเทศ ทั้งในขณะที่เขาเดินทางมาเมืองไทย และในขณะที่ผมเดินทางไปต่างประเทศ ประสบการณ์ในช่วง 15 ปีนี้ที่ทำให้ผมได้เดินทางไปประเทศอื่นประมาณ 25 ประเทศ (ทั้งไปทำงานและไปเที่ยว) ทำให้ผมได้ข้อสรุปบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการที่จะเก่งภาษาอังกฤษทั้ง ๆ ที่ผมไม่ใช่คนเก่ง แต่ผมคิดว่าพอจะเดาได้บ้างว่าถ้าจะเป็นคนเก่งต้องทำยังไง ผมรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ที่ลิงค์นี้ คุยกับท่านผู้อ่าน 

ท่านผู้อ่านที่ติดตาม blog นี้เป็นประจำจะสังเกตได้ไม่ยากว่า ผมไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษมากมายอะไร ในที่ทำงานมีหลายคนที่แย่กว่าผม แต่ก็มีหลายคนที่ผมแย่กว่าเขาในเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ แต่ที่ผมกล้ามาทำ blog นี้ ก็เพราะผมเอาของดี ๆ ที่คนอื่นเขาทำไว้มาเสนอให้ท่านใช้ ถ้าให้ผมทำเองผมก็คงทำไม่ได้หรอกครับ

มีอยู่ 1 คำถามที่ผู้อ่านบางท่านอาจจะอยากทราบแต่ไม่กล้าถาม คือ ผมได้อะไรจากการทำ blog นี้? คำถามนี้ตอบได้ไม่ยากเลยครับ

เรื่อง รายได้ไม่ใช่สาเหตุแน่ ๆ ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ชัดเลยว่า blog นี้เป็น blog ที่ Free 100 % อันที่จริงมีอยู่หลายวิธีที่สามารถหารายได้จาก blog แบบนี้ ที่คนอื่นเขาทำกันอยู่ก็เช่น ให้ข้อมูลดี ๆ แก่คนอ่านพอเป็นตัวอย่าง ถ้าอยากได้เพิ่มเติมต้องเสียเงินลงทะเบียน หรือหาโฆษณามาลง ผมตั้งใจไว้อย่างเด็ดขาดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ใช้ blog นี้หารายได้ ไม่ว่าด้วยทางใดทั้งสิ้น บางวิธีอาจจะดูว่าไม่เป็นอันตราย win – win ด้วยกันทั้งคู่ เช่น หาโฆษณามาลง ใครไม่อยากคลิกก็ไม่ต้องคลิก ใครคลิกเข้าไปแล้วไม่อยากซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ท่านผู้อ่านก็ไม่ได้เสียอะไร ผมเองก็ได้เงินค่าคลิกโฆษณา แต่... มันไม่ใช่เรื่องพื้น ๆ อย่างนั้นหรอกครับ ยกตัวอย่างเรื่องคลิกโฆษณา เนื่องจาก blog นี้ผู้ชมส่วนใหญ่คือผู้ที่สนใจเรื่องภาษาอังกฤษ โฆษณาที่จะถูกให้เอามาลงก็หนีไม่พ้นโฆษณาโรงเรียนสอนภาษา หนังสือ CD วีดิโอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ ปัญหาก็คือ ผมไม่มีทางรู้เลยว่าสินค้าเหล่านั้นคุณภาพดีจริงหรือเปล่า หรือถ้าหากว่าคุณภาพดี ราคามันแพงเกินไปหรือเปล่า มันคุ้มค่ากับเวลาหรือเงินที่ท่านผู้อ่านต้องเสียไปหรือเปล่า หรือมีสิ่งอื่นไหมที่ blog นี้สามารถให้ได้ฟรี ๆ โดยท่านผู้อ่านไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ เรื่องของเรื่องก็คือ ผมไม่ต้องการให้ท่านผู้อ่านเสียอะไรแม้แต่นิดเดียวจากการเข้ามาที่ blog นี้

เมื่อท่านผู้อ่านขอบคุณผมที่ทำ blog นี้ ก็ขอให้ท่านช่วยขอบคุณน้อง ๆ ในที่ทำงานของผมที่ช่วยเหลือผมทางด้านเทคนิคมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณประสาร คิดดี และคุณศศิศ บุญดาว ที่เป็นเหมือนอาจารย์ของผมในเรื่องการทำ blog 

แต่อะไรเล่าคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมทำ blog นี้ และก็จะทำต่อไปถ้าไม่มีปัญหาทางด้านเทคนิคหรือสุขภาพร่างกายมาขัดขวางบั่นทอน?

 ตั้งแต่ต้นมาแล้วที่ผมเรียนท่านผู้อ่าน ผมรู้สึกว่าชีวิตของคนเราสั้นและไม่แน่นอน งานราชการที่ผมทำ แม้จะตั้งใจทำอย่างซื่อสัตย์และเต็มความสามารถ แต่จะพูดว่าผมทำความดีก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะถึงอย่างไรผมก็ได้เงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ จากภาษีของประชาชน การทำงานอย่างซื่อสัตย์และเต็มกำลังความสามารถจึงเป็นการใช้หนี้ประชาชน ไม่น่าจะเอามาคุยว่าเป็นการทำความดี

ผมจึงขอเรียนว่า การที่ผมทำ blog นี้ก็เพราะว่า...
1. ผมมีความสุขยิ่งนักที่ได้ทำ เพราะผมได้ใช้ความสามารถที่ผมมี คือ search skill, computer skill, English skill และ skill ในการชี้แจงอธิบายขยายความเรื่องต่าง ๆ ซึ่งผมแอบเข้าข้างตัวเองว่า ผมน่าจะสอบไม่ตกในเรื่องเหล่านี้ เมื่อได้ให้ความสุขแก่ตัวเองเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นโบนัสของชีวิตที่ผมให้แก่ตัวเองทุกวัน ผมทำสิ่งที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า labour of love นั่นแหละครับ

2. ผมมีความสุขยิ่งขึ้นไปอีกที่ได้รู้ว่า มีบางท่านได้รับประโยชน์จาก blog นี้ แม้ blog นี้จะรู้กันในกลุ่มคนที่จำกัดเพราะผมไม่ได้ใช้วิธีโฆษณาใด ๆ ทั้งสิ้น ท่านเข้ามาแล้วแม้จะได้อะไรกลับออกไปเพียงนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ถือว่าท่านได้ช่วยให้ผมมีความสุขมากขึ้น ขอขอบคุณครับ

ขอบคุณทุกท่านครับที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้

พิพัฒน์

166 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียนอาจารย์พิพัฒน์
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้อาจารย์หายจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวงนะคะ และขอให้สิ่งดีๆที่อาจารย์กระทำไว้ให้กับคนอื่นๆซึ่งเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของอาจารย์ จงตอบแทนคืนให้อาจารย์พบแต่สิ่งดีๆในชีวิตเช่นกัน อยากให้อาจารย์ดูแลสุขภาพมากกว่านี้ อย่านอนดึก เพราะบางครั้งเห็นว่า กว่าที่อาจารย์จะเขียนเรื่องที่ต้องนำมาลงในแต่ละวัน ค่อนข้างดึกสำหรับผู้เริ่มมีอายุมากขึ้น การที่ร่างกายพักผ่อนไม่เป็นเวลานั้น ส่งผลต่อความสมดุลและการทำงานที่เป็นปกติของฮอร์โมนแต่ละชนิด และเมื่อเกิดความไม่สมดุลขึ้น ฮอร์โมนบางชนิดไม่สามารถทำงานได้ในเวลาที่ควรเป็นเวลาพัก ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆได้ แบบที่เราคาดไม่ถึง อยากให้อาจารย์พักผ่อนเยอะๆค่ะ อาจารย์เคยบอกว่าอยากให้ผู้อ่านช่วยกันแนะนำ web ที่มีประโยชน์บ้าง วันนี้บังเอิญไปเจอ web ที่แนะนำเรื่อง academic writing ไว้ได้ดีทีเดียว เป็นคำแนะนำจาก university of Hong Kong คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่สนใจการพัฒนาทักษะการเขียนแบบ essay ที่นี่ค่ะ http://ec.hku.hk/writingmachine/

uknowg กล่าวว่า...

ผมซาบซึ้งในตัวอาจารย์มากครับ...ผมได้อะไรหลายๆในนี้
เว็บนี้เหมือนแสงสว่างให้คนไทยในการพัฒนาภาษาอังกฤษและผมประหยัดเวลาลงไปได้มากหลังจากได้รับ trick ดีๆจากอาจารย์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียนอาจารย์พิพัฒน์
ที่ส่งมาเมื่อสักครู่ หากอาจารย์เห็นวาพอจะมีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ รบกวนให้อาจารย์ช่วยทำ link http://ec.hku.hk/writingmachine/ ให้ด้วยนะ เพราะทำไม่เป็นค่ะ
ด้วยความเคารพยิ่ง

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณชลธิชาครับ ขอบคุณครับที่แนะนำ เว็บที่คุณแนะนำมา นอกจากเรื่อง essay, writing แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ผมจะ post และแนะนำท่านผู้อ่าน รอสักนิดครับ - พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดิฉันเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับคุณพิพัฒน์ค่ะว่าเราไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ไม่ใช่เพื่อนก็เหมือนเพื่อน ไม่ใช่ศิษย์อาจารย์ก็เหมือนใช่ และดีใจมากที่ได้พบ blogนี้ค่ะ เนื่องจากดิฉันก็จัดอยู่ในเด็กด้อยโอกาสความรู้ด้านcomฯก็มีน้อยมาก แต่คิดว่าเราคงมรวาสนาต่อกันในด้านนี้จึงทำให้ได้มาพบกัน ชีวิตของคุณพิพัฒน์ยังดีกว่าดิฉันหลายเท่า และที่สำคัญคุณได้ทำในสิ่งที่รัก และสิ่งนั้นยังส่งผลอันยิ่งใหญ่ให้กับคุณและผู้สนใจการศึกษาอีกจำนวนมากนับเป็นคุณูประการที่อเนกอนันต์ยิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรคนเราก็หนีวักสงสารไปไม่พ้น เป็นธรรมดาโลก ที่สังขารต้องร่วงโรย แต่ถึงกระนั้นความเจ็บป่วยที่คุณได้รับอยู่ก็ยังความทุกข์ใจและห่วงใยมายังเหล่าสมาชิกค่ะซึ่งหนึ่งในนั้นมีดิฉันรวมอยู่ด้วย หากคุณได้อ่านสิ่งที่ดิฉันเขียนมานี้ก็ขอให้คุณรู้ว่า"ความดีไม่มีที่สิ้นสุด ความสุขของการให้ยิ่งใหญ่กว่าเงินทอง"ดิฉันขอเป็นกำลังใจเป็นพลังใจในการทำในสิ่งที่คุณรักต่อไปค่ะ สุดท้ายขอให้คุณทำจิตใจให้สบายไม่เครียส ไม่กังวล ปล่อยวางสรรพสิ่งและมีความสุขกับการได้ทำในสิ่งที่รักต่อไปตราบนานเท่านานค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดิฉันเข้ามาอ่านบล็อกของคุณพิพัฒน์แทบทุกวันและตื่นเต้นทุกครั้งที่คุณพิพัฒน์นำบทความหรือลิงค์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมาลง มันเป็นความสุขที่ดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนจนมันเริ่มก่อตัวขึ้นชัดเจน ดิฉันเป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ(ตอนนี้ไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้ว)ซึ่งดิฉันคงจะเป็นนักศึกษาที่อ่อนภาษาอังกฤษมากกว่าคนไหน ๆ ถ้าให้เทียบระดับความรู้ภาษาอังกฤษของดิฉันกับเด็กประถม คงมีเด็กประถมหลายคนแซงหน้าดิฉันไปไกลแล้ว ซึ่งฉันก็ขอให้เด็กส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น เมื่อครั้งแรกที่ดิฉันค้นหาเว็บเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี ดิฉันยังจำครั้งแรกที่เข้าบล็อกคุณพิพัฒน์ได้
พอเข้ามาดิฉันถึงกับอึ้งที่มีบล็อกมีการรวบรวมลิงค์เรียนภาษาอังกฤษต่าง ๆ มากมายและหลากหลาย จากนั้นดิฉันก็ทึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่บล็อกนี้มีการเคลื่อนไหว มีบทความใหม่ลงอยู่เสมอ มีหนังสือดี ๆ ให้ดาวน์โหลด มีไฟล์เสียงต่าง ๆ มากมาย มีวันนี้เป็นวันแรกที่ดิฉันเข้ามาอ่านบทความแล้วรู้สึกตกใจเล็กน้อย (ไม่ใช่บล็อกลงบทความไม่ดีนะคะ) แต่เป็นเพราะได้ทราบว่าคุณพิพัฒน์ไม่ได้ป่วยเพียงเล็กน้อย หรือเป็นหวัด อย่างที่ดิฉันเข้าใจ ดิฉันขอให้คุณพิพัฒน์รักษาสุขภาพ และขอให้คุณพิพัฒน์หายจากอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ กลับมาเป็นคุณพิพัฒน์ที่แข็งแรงเหมือนดั่งเช่นคุณพิพัฒน์เคยเป็นมา ดิฉันหวังว่าความสุขที่คุณพิพัฒน์มอบให้ดิฉันและคนอื่น ๆ นั้นจะส่งความสุข ความรัก และ ความหวัง ให้คุณพิพัฒน์มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และ สุขใจมาก ๆ ค่ะ

นงลักษณ์ veadnam@hotmail.com

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รู้ว่าคุณพิพัฒน์ป่วย เป็นห่วงจริงๆค่ะ ขอให้หายจากโรคภัยเร็ววันนะคะ แล้วก็กลับมาเขียนอะไรก็ได้ทุกๆวันนะคะ ติดตามตลอดเลยค่ะ

มีนา

pp กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง บทความคุณสนุกมากๆค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มีความรู้สึกเดียวกัน กับคุณ Nonglak เลยค่ะ เข้ามาดูทุกวันแล้วก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็น link ใหม่ๆ
เป็นความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
เป็นกำลังใจในการทำสิ่งดีๆ ของคุณต่อไปนะคะ
คนดีๆ อย่างนี้ คุณพระคุ้มครองค่ะ
ขอให้สุขภาพแข็งแร และประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่องเลยนะคะ ..

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำมันบอกได้เลยว่าสุดยอดจริงๆๆ ใช้คำว่าคนดีมากยังน้อยเกินไปเลย ผมอยากศึกษาภาษาอังกฤษก็เพราะเว็บนี้จนทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ขอบคุณจริงๆๆ

คุณหนึ่ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเพิ่งเรียนอยู่ ม.ปลายครับ แล้วก็ชอบภาษาอังกฤษมาก แต่เวลาจะหาเว็บที่เรียนภาษาอังกฤษแบบเฉพาะเจาะจงและตรงตามที่ต้องการเป็นเรื่องที่ยากมาก พอดีผมมาเจอบล๊อกของอาจารย์พิพัฒน์เข้า ผมก็ตะลึงไปเลยครับ เพราะเนื้อหาในนี้ดีมากๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากด้วย ผมยังงงอยู่เลยว่า มีเว็บการศึกษาที่ดีและฟรีขนาดนี้จริงๆเหรอ เพราะผมก็เป็นคนที่ชอบค้นหาความรู้ด้านภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่หลายๆเว็บที่เจอก็อาจจะไม่ตรงใจ แล้วผมต้องขอบอกว่าอาจารย์เป็นคนที่มีความพยายามและมีทัศคติต่อชีวิตที่ดีมากๆ ผมคิดว่าหากได้มานั่งคุยกับอาจารย์ในเรื่องที่สิ่งที่ชอบเหมือนๆกันและให้อาจารย์แนะนำแนวทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็จะดีมากจริงๆครับ สุดท้ายผมก็ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้อาจารย์หายจากโรคภัยใข้เจ็บต่างๆ มีความสุขและอายุยืนยาวนะครับ....

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณในคำอวยพรของลูกมากนะ

Nuch & Tor กล่าวว่า...

^_^*

ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ติดตามและเข้ามาอ่านบทความ รวมทั้งความรู้ด้านภาษาจากที่นี่บ่อยๆ
อยากขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้ครับ

..บุญรักษา..

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีคะพี่พิพัฒน์(ขอเรียกว่าพี่นะคะ...ที่จริงต้องพูดตั้งแต่คราวที่แล้วๆ มาแล้วหละคะ อิอิ)

ดีจังคะที่ได้รู้เรื่องราวของพี่
น้องเองเป็นคนชอบอ่านประวัติบุคคลสำคัญๆ อย่างนี้แหละคะ
เพราะเขามีประสบการณ์บางอย่างที่น้องอาจไม่เคยมี
เป็นประโยชน์กับน้องมากทีเดียวคะสำหรับคอลัมน์นี้

โชคดีนะคะที่พี่เฉียดตายมาได้
ดีกว่าน้องที่ยังไม่เคยสัมผัสความรู้สึกเหล่านั้น
น้องว่าความรู้สึกที่พี่ได้รับมันทำให้พี่เห็นคุณค่าของชีวิตทั้งของพี่เองและคนอื่นๆ
อย่างน้อยเวลาที่พี่พบเรื่องที่เลวร้ายกว่าในชีวิต
พี่ก็จะคิดว่าตนโชคดีอยู่เสมอ
เพราะพี่ได้ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนั้นมาแล้ว

ส่วนโรคต่างๆ ที่พี่เป็นอยู่นี้
หนูก็อยากให้พี่เห็นว่ามันเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของพี่
ที่จะทำให้พี่เข้มแข็งกว่าใครๆ
และมีโอกาสได้ดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

โชคดีจริงๆ คะที่พี่ได้เจอสิ่งเหล่านี้
แน่นอน ตอนแรกทุกคนรวมทั้งหนูคิดว่ามันคือโชคร้าย
แต่มองว่าร้ายมันก็ร้าย
มองว่าดีมันก็ดี
ก็สู้มองให้มันดีดีกว่าเนอะ

ยังไงก็รักษาสุขภาพดีๆ เหมือนที่ตอนสมัยหนุ่มๆ ที่พี่แข็งแรง ฟิตปั๋งนั่นแหละคะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง
หนูเชื่อว่า คนดีผีย่อมคุ้มครอง คะ

น้องวันลี
ปล.หนูเคยได้ยินมาว่า ถ้าเราฝันเป็นภาษาอังกฤษ แสดงว่าเราเริ่มเก่งอังกฤษแล้ว จริงรึป่าวคะ
แล้วพี่เคยฝันอย่างนั้นบ้างไหมคะ
เล่าสู่กันฟังได้ตามสนุกคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เข้ามาติดตามอ่านบล็อคพี่ประจำค่ะ มันเยอะมากๆจนไม่สามารถรับไปได้หมด

ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ
มีความสุขมากๆด้วยค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณ คุณพิพัฒน์ มากนะครับ ที่ทำที่ดีๆแห่งนี้ขึ้นมา

ผมเข้ามาติดตามอ่านเป็นประจำ และรู้สึกว่าได้อะไรมากกว่าเรียนภาษาอังกฤษ ก็ขอให้คุณทำblog แห่งนี้ต่อไปอีกนานแสนนานเลยนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณพิพัฒน์ ที่ให้ความรูที่มีแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ประโยชน์อย่างมากมาย ขอใหกุศลที่คุณพิพัฒน์ทำส่งผลให้คุณพิพัฒน์หายป่วยในเร็ววันนะคะ
/milin

Unknown กล่าวว่า...

ครอบครัวผมจะเป็นแรงใจและกำลังใจให้์ คุณพิพัฒน์ ในทุกๆเรื่องครับอ่านกันจนเป็นญาติสนิทกันแล้วนะครับ คุณพระคุ้มครองครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้มีคนอย่างคุณในสังคมนี้ นอกจากได้ความรู้แล้ว ยังได้กำลังใจในการใช้ชีวิตด้วยค่ะ การให้ความรู้เป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณพิพัฒน์ให้แข็งแรง และมีกำลังใจทำความดีต่อไปค่ะ

TNR กล่าวว่า...

ผมผ่านเข้ามาหลายครั้ง แต่เพิ่งรู้จักอาจารย์มากขึ้นก็วันนี้ ยินดีกับ blog ที่อาจารย์ทำ มันมีประโยชน์มาก ขอให้อาจารย์สมหวังทุกสิ่งครับ

Little girl กล่าวว่า...

อยากบอกคุณพิพัฒน์ว่า ความสุขของคุณพิพัฒน์ที่ได้สรรหาเรื่องราวมาทำเป็น blog ให้พวกเราได้อ่านนั้น ไม่ได้เป็นความสุขธรรมดา-ธรรมดา แต่มันเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ ที่สามารถสร้างสรรค์สร้างโอกาสและเปิดโลกกว้างให้กับคนอีกหลายคน ไม่มีคำอื่นใดที่จะกล่าวกับคุณนอกจาก คำว่าขอบคุณ ขอบคุณมากๆๆ (การให้ความรู้เป็นวิทยาทานถือว่าเป็นการทำบุญด้วยนะคะ )

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่รู้จะหาคำไหนที่มีความหมายมากกว่าคำว่าขอบคุณ

ขอบคุณที่หยิบยื่นสิ่งดีๆให้นะคะ

ขอให้คุณพิพัฒน์ มีความสุขในการทำงาน ในชีวิตครอบครัว

มิ่งขวัญ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอสารภาพว่าเข้ามาอ่าน blog ของพี่ตุ่นจริงๆ จังๆ ก็วันนี้หลังจากได้รับคำแนะนำจากพี่วัฒนาภรณ์ จริงๆ Mac ควรเข้ามาอ่านและเรียนรู้ข้อมูลใน blog ของพี่มาตั้งนานแล้วเพราะเท่าที่เห็น มีประโยชน์สำหรับวิชาชีพที่ Mac กำลังทำอยู่มาก และอาจจะเป็นเพราะว่า Mac ได้คุยกับพี่ตุ่นเมื่อเย็นนี้ด้วย ก็เลยมาดูผลงานของพี่เราเสียหน่อย

ได้อ่านเรื่องเล่าชีวิตของพี่แล้ว ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันกับพี่ เรื่องชีวิตของเรามันช่างเปราะบาง จะไปจากโลกใบนี้เมื่อไรก็ไม่รู้ ดังนั้นคนเราควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และไม่เบียดเบียนผู้อื่น

สิ่งที่พี่ทำทุกวันนี้ Mac เห็นว่าอาจจะเป็นเพราะพี่ผ่านประสบการณ์อะไรมามากมายในชีวิต ก็เลยใช้ชีวิต อย่างไม่ประมาท นอกจากนี้ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความรู้แก่ผู้อื่นเป็นวิทยาทาน สิ่งนี้นอกจากจะไม่เบียดเบียนผู้อื่นแล้ว ตามทางพระยังเรียกได้ว่า มี กรุณา คืออยากช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเขามีทุกข์ (มีทุกข์เพราะยังมีความรู้ภาษาอังกฤษไม่ดีพอที่จะไปใช้ประโยชน์)และมุทิตา คือยินดีเมื่อคนที่เราช่วยเหลือมีความสุข (ได้รับรู้ว่าคนอ่าน blog นี้แล้ว มีความรู้เพิ่มขึ้น)

อาจจะดูเหมือนคนแก่วัดวาไปหน่อยนะน้องของพี่เนี่ย แต่อายุอานามก็เพิ่มขึ้นมากแล้ว เห็นความวุ่นวายในการใช้ชีวิตของผู้คนรอบตัวทั้งสังคมที่ทำงาน เพื่อน คนใกล้ชิด ที่ใช้ชีวิตอย่างประมาท และบางครั้งดูเหมือนว่าการปฏิบัติตัวจะห่างไกลจากคำสอนของศาสนา แต่น้องของพี่เนี่ยใช่ว่าจะทำตัวได้ดีหรือตัดกิเลสอะไรได้ บางครั้งเราก็เพริดไปกับความวุ่นวายของสังคมรอบข้างได้เหมือนกัน ยิ่งตอนนี้จิตใจหมกหมุ่นกับ chaos ของสังคมใหญ่ของเรา เลยใจยังขุ่นๆ อยู่

ยังไงก็ตาม Mac คิดว่าพี่ลืมที่จะอ้างถึงอะไรบางอย่างใน topic นี้ของพี่ คนที่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของพี่ก็ภรรยาไง :) เท่าที่รู้พี่สองคนรักกันมากเป็นกำลังใจที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ซึ่ง Mac เห็นว่าโชคดีมากนะ เพราะคนไม่มากนักหรอกที่จะใช้ชีวิตคู่ได้ในลักษณะนี้นะ

ออกจะดูเป็น comment ที่ยาวไปสักหน่อย แต่เราไม่ได้คุยกันนานแล้ว ก็เลยขอใช้เวทีนี้เป็นสื่อสำหรับสื่อสารกับพี่ก็แล้วกัน Mac เชื่อว่าบุญกุศลที่พี่ทำด้วยการ จัดทำ blog นี้ขึ้นมาจะอำนวยให้พี่มีสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาไวๆ (บวกกับกำลังใจที่ดีจากภรรยาด้วย) แล้วจะได้หา link และบทความดีๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมาให้คนรออ่านนะ

อ้อ ลืมบอกไป Mac ก็มี blog ของตนเอง แต่แรกตั้งใจว่าจะทำ blog เป็นสองภาษา ไทย กับอังกฤษ main theme ก็เป็นเรื่องความสนใจทั่วไปของเจ้าของ blog รวมไปถึงเรื่องภาษาอังกฤษด้วย ถ้าพี่แข็งแรงขึ้นแล้วและมีเวลาอาจจะลองเข้าไปดูที่ http://tuppasoot.blogspot.com ช่วย comment และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยละ จะพยายาม updated บ่อยๆ

หายไวๆ นะพี่

Mac

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คงต้องบอกว่าคุณพิพัฒน์ คือผู้ให้จริงๆ ให้ทั้งความรู้ ให้ทั้งความจริงแห่งจักรวาล สิ่งที่คุณเล่ามาเกี่ยวกับชีวิตคุณทั้งหมด ล้วนคือความจริงที่บางคนอาจไม่รู้ หรือรู้แต่อาจมองข้าม แต่ทุกสิ่ง...ทุกอณู คือบทเรียน และรอยเท้าที่จะให้คนข้างหลังได้เดินตามรอย เราเชื่อว่าคุณคือ"หนึ่งในร้อย" และจงเชื่อว่าทุกคนรับทราบความดีของคุณ และอีกหนึ่งที่อยากยกย่องคือ คุณคือ "คนต้นแบบ"ของพวกเราทุกคน ขอบคุณในทุกสิ่งที่มอบให้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดิฉันเป็นแม่บ้านลูกสามและทำงานขายของอยู่กับบ้านไปด้วยในช่วงกลางวันอยากเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความรู้ไปด้วยแต่บ้านดิฉันอยู่บ้านนอกเข้าเมืองใช้เวลาเป็นชั่วโมงจึงเป็นการลำบากที่จะเดินทางไปเรียนเพราะเลิกงานพวกลูกก็กลับจาก ร.ร แล้วแต่มาพบเวบของคุณพิพัฒน์ทำให้ดิฉันมีเวลาเรียนและทำให้มีความรู้เพิ่มสุดท้ายนี้ขอให้สิ่งดี ๆ ที่คุณพิพัฒน์ทำให้คนมีความรู้และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้คุณพิพัฒน์และครอบครัวมีความสุขโรคภัยให้มลายหายไปอยากให้เมืองไทยมีคนเช่นคุณพิพัฒน์เยอะ ๆ ขอบคุณจริง ๆ คะ

Sasit ☆ กล่าวว่า...

ขอให้พี่ตุ่นกลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิมเร็วๆ นะครับ ;) ต้น สมฐ.

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากจริงๆๆๆค่าาาา
สิ่งดีๆๆที่มีให้ก้อมากมาย ถึงหนูจะเข้ามาไม่ค่อยบ่อย
เพราะบางทีมันก็ขี้เกียจอ่าาTTT[]TTTT เลยไม่เก่งภาษาอังกฤษสักที (เฮ้อ)
แต่ งัยก็
สู้ๆๆๆนะคะะะ
ปล. ทำไมไอ้โรคนี้ชอบมาเกิดกับคนดีๆๆหว่าา
(เห็นด้วยไม่คะพี่น้อง ^*^)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นำใจอันประเสริฐของโยมพิพัฒน์มิได้แผ่ไพศาลไปสู่เฉพาะมวลชนฆราวาสเท่านั้นแต่ยังเอื้อเฟื้อจิตใจอันดีงามนี้ให้กับพระภิกษุผู้ต้องการฝึกภาษาอีกด้วยซึ้งอาตมาไม่เคยพบ ณ ท่ใดเลย ขออนุโมทนาคุณความดีครั้งนี้ให้คุณโยมหายจากโรคาพยาธิทั้งมวลและให้อยู่ยิ่งยืนยงทำความดีต่อมวลมนุษยชาติสืบต่อไปนานแสนนานและจะติดตามความดีของคุณโยมตลอดไปอาจมีบางครั้งท่มีคำถามเรื่องภาษาแล้ว ขอความอนุเคราะห์ฝากคำถามกับคุณโยมด้วย.....พระภิกษุผู้ซาบซึ้งกับความวิริยะสร้างความดีของโยมพิพัฒน์

pipat - blogger กล่าวว่า...

กราบนมัสการท่านอาจารย์
ขอบพระคุณในคำอวยพรของท่านครับ ผมเองระยะนี้โรคงูสวัดที่เป็นที่เอวด้านซ้ายก็ดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว นี่กำลังจะต้มยาจีนกินเพราะรู้สึกว่ายาแผนปัจจุบันได้ผลช้า

ท่านอาจารย์ลองดูลิงค์นี้นะครับ อาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
http://freeenglishstudy.blogspot.com/2007/05/blog-post.html

นมัสการมาด้วยความเคารพ
พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะชึ้งในน้ำใจอันประเสริฐของคุณมากค่ะทีทำเว็ปดีๆแบบนี้ดิฉันก็เข้าgoogleหาเอาเองค่ะพอดีมาเจอเว็ปนี้เป็นเว็ปที่มีประโยชน์มากจริงๆเลยค่ะขอบคุณมากเลยค่ะขอให้หายป๋วยมีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณและทราบซึ้งในน้ำใจของท่านมาก ผมเชื่อว่าทุกคนที่ผ่านเข้ามาจะได้รับคุณประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป........

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ น้ำใจช่างประเสริฐยิ่ง แค่คิดจะทำก็ยิ่วใหญ่แล้ว ลงมือทำจนสำเร็จนี่ สุดบรรยายเลย ขอให้หายป่วยไว ๆ นะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียนคุณพิพัฒน์
หนูได้เข้ามาอ่านที่ Web นี้ตั้งแต่ต้นปีค่ะ และนึกสงสัยมาโดยตลอดว่าคนเขียนเป้นใคร อยากรู้จักแม้ว่าจะแค่ได้อ่านประวัติก็ดีใจมาก เพราะว่ารู้สึกทราบซึ้งในความมีน้ำใจของ อ.มาก
หนูอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะไปเรียนพิเศษกับสถาบันดังๆ
อยากไปเมืองนอก ก็ดูว่าจะห่างไกล
ตอนเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ หนูก็ขอทุนเรียน พอศูนย์ญี่ปุ่นประกาศเปิดสอนภาษาก็รีบไปสมัครแต่กลายเป็นว่าต้องเสียเงินก็เลยไม่ได้เรียนค่ะ จบมาก็หวังไว้เสมอว่าจะต้องเก่งให้ได้ พอลองหาในอินเตอร์เน็ตดูก็เจอ blog ของ อ. หนูดีใจมากๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจในการเข้าไปหาความรู้ในแต่ละหัวข้อ มีความจำเป็นบางอย่างที่หนูไม่ได้เข้ามาในเน็ตหลายเดือน พอมาวันนี้เห็นเรื่องเกี่ยวกับผู้เขียน หนูรีบเข้ามาอ่านอย่างไม่รอช้า และดีใจมากที่ได้อ่าน เหมือนได้รู้จัก "ครู"ที่ไม่เคยเจอหน้า แต่เป็นครูที่ให้เรามาโดยตลอด
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับสิ่งที่ อ.ให้
และขอให้อ.ดีขึ้นกับโรคที่เป็นอยู่ ถึงจะไม่หายขาดแต่เราก็อยู่กับมันอย่างเป็นสุขได้
หนูจะเป็นกำลังใจให้อาจารย์พิพัฒน์เสมอค่ะ
ขวัญพัฒน์

pipat - blogger กล่าวว่า...

หนูขวัญพัฒน์
ดีใจที่มีลูกแม่โดมเหมือนกันมาอ่านบล็อกนี้
(ชื่อคล้ายกันอีกต่างหาก) ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วมากขึ้นแล้วแหละ
พี่พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียนอาจารย์พิพัฒน์
ผมเพิ่งรู้จัก blog ของอาจารย์เมื่อประมาณสองอาทิตย์แล้วรู้สึกไม่อยากจะพลาดบทความของอาจารย์แม้แต่บทความเดียวเลย ว่างจากการทำงานผมเป็นต้องเปิดเข้ามาอ่านตลอด มันเป็นประโยชน์สำหรับคนใคร่รู้แต่ทุนน้อยมากๆ ผมขอส่งความสุขที่ได้จากการอ่านบทความของอาจารย์แปลงเป็นกุศลเป็นแรงหนุนให้อาจารย์หายป่วยไวๆนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จำเริญ จำเริญ ครับ เป็นเวปเดียวที่ผมนับถือ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่นะคะ

ขอให้คุณพระคุ้มครอง...บุญรักษา

ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ :)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณที่สร้างBlog ดีๆแบบนี้นะครับ

คุณเป็นคนดีจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นับถือในน้ำใจของคุณมากๆ ขออัญเชิญอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ในสากลโลก และความดีที่คุณได้สร้างความรู้กับผู้คน ขอบันดาลให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ อย่าเจ็บอย่าไข้อีกเลย ให้มีความสุขมากๆค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะที่สร้าง blog ดีๆ แบบนี้มาให้พวกเราทุกคน

คุณพิพัฒน์เป็นคนที่ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจริงๆ
คุณ เป็นคนดีมากๆ ดิฉันซึ้งในน้ำใจมากๆ

ดิฉันขอให้คุณพิพัฒน์มีความสุขมากๆ นะคะ ขอให้โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายมลายหายไป แล้วก็ขอให้คุณพิพัฒน์แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต แล้วที่สำคัญ ขอให้คุณพิพัฒน์ดูแลตัวเองให้มากๆ นะคะ

ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ สำหรับน้ำใจของคุณ

ถ้ามีสิ่งใดที่ดิฉันสามารถช่วยได้ เมล์มาได้ตลอดนะคะ
dayjung@hotmail.com

*~LitStar~* กล่าวว่า...

หลังจากที่อ่านบทความและความรู้ดีๆ ของคุณพิพัฒน์ที่เผยแพร่ในเว็บนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ ที่เป็นผู้สระเวลาอันมีค่าให้กับหลายๆท่าน รวมถึงตัวดิฉันด้วย รุ้สึกได้เลยว่าถ้าอยากเก่งต้องพยายามอย่างจริงจัง แล้วก็ขอขอบคุณบุคคลที่คุณพิพัฒน์เอยนามด้วยค่ะ

ขอสิ่งศักดิ์สิทธ์ในสากลโลก ดลบันดาลให้ให้คุณพิพัฒน์สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ และพบเจอแต่ความสุข และสิ่งดีๆ ในชีวิตค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนแรกตั้งใจว่าจะหา dictionary online เท่านั้น search มาเจอ web นี้ ดูไม่กี่หัวข้อก็รู้สึกว่าเต็มไปด้วยสาระและน่าสนใจมาก จึงอยากรู้จักคนทำเว็ป
เมื่อเห็นหัวข้อ "เรื่องส่วนตัวที่ผมอยากเล่า" จึงรีบเข้ามาอ่าน

บอกตามตรงว่า ไม่เพียงแต่คุณพิพัฒน์จะมีน้ำใจประเสริฐแล้ว ยังมีความคิดที่ลึกซึ้ง เล่าผ่านประสบการณ์ได้อย่างน่าสนใจ และได้ข้อคิดกับใจผู้อ่านไปเต็มๆ

ขอบคุณสำหรับประกายความคิดนี้ ที่จะช่วยดลบันดาลใจอีกหลายๆ คน ให้ขยัน และรู้จักแบ่งปันสู่สังคมนะคะ เชื่อเหลือเกินว่า สิ่งที่ได้ให้กับสังคมเหล่านี้ จะตอบแทนมาที่คุณพิพัฒน์ มากกว่าความรู้สึกยินดีที่ได้รับเสียอีก

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลให้คุณพิพัฒน์ และครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข ประสบความสำเร็จในทุกข์ด้านนะคะ

\(^-^)/Happy New Year na ka ~

จากเด็กอ่อนอังกฤษแต่จะสู้ด้วยใจ

ปล. แล้วจะแนะนำ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ให้มาเรียนรู้จาก web นี้นะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอให้พระคุ้มครองให้คุณพิพัฒน์หายจากอาการป่วยไว ๆ
ขอขอบคุณที่คุณพิพัฒน์ได้สละเวลาคิดและทำสิ่งที่ดี มีประโยชน์มาก ๆ
ขอขอบคุณ คุณพ่อ-คุณแม่ พี่น้องและทุกคนในครอบครัวของคุณพิพัฒน์ที่หล่อหลอมให้คุณพิเศษจากคนอื่นๆ ในความเอื้อเฟื้อและแบ่งปัน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้นำสิ่งที่คุณตั้งใจทำไว้ให้ทั้งหมดในweb มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณมากนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ที่สละเวลามาให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจภาษาอังกฤษ เป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ขอให้ทุกสิ่งที่คุณพิพัฒน์ปรารถนาสำเร็จดังตั้งใจค่ะ คุณพิพัฒน์เป็นแรงบันดาลใจให้มีความหวังในการศึกษาภาษาอังกฤษของดิฉันมาก ๆ และขอศึกษาข้อมูลทั้งหมดที่คุณพิพัฒน์จัดทำขึ้นอย่างเต็มที่ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

fดีใจมากที่หาเว็บนี้เจอค่ะ ขอบคุณคุณพิพัฒน์ที่เสียสละเวลาหาแหล่งความรู้ที่ดีมาให้ค่ะ
ปล. รักษาสุขภาพนะคะ หายป่วยเร็ว ๆค่ะ

พศิน กล่าวว่า...

ความทุ่มเทและความเสียสละที่ท่านมอบให้สังคม เป็นกุศลอย่างยิ่ง อานิสงค์นี้จะส่งผลให้ท่านและครอบครัวประสบความสำเร็จในชีวิตและแคล้วคลาดปลอดภัย ขอขอบคุณทุกๆความทุ่มเท ความมุ่งมั่นทั้งปวงที่ท่านกำลังทำขณะนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้ตลอดไป

ขอคุณพระคุ้มครองด้วย
พศิน แม้นสุขมณี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้ดูรายการของคุณที่ช่อง nbt เมื่อเช้านี่เองค่ะ(31มค.52)แล้วก็รีบเข้า web เลย ทำไมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีคนใจบุญทุ่มเทกำลังความสามารถและให้กำลังใจแก่คนอื่นๆในการใช้ภาษาอังกฤษได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ตัวเองก็มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ก็ขอให้พลังแห่งความตั้งใจดีของคุณจงย้อนกลับมาที่ตัวคุณ ให้คุณได้รับแต่ในสิ่งที่ดีๆนี้เช่นกัน สำหรับตัวดิฉันเองการค้นพบครั้งนี้มีประโยชน์มากมายมหาศาลเลยค่ะ เพราะดิฉันเป็นครสอนภาษาอังกฤษเด็กๆระดับประถม จะขอนำความรู้ต่างๆนี้ถ่ายทอดสู่ลูกศิษย์ตัวเล็กๆต่อไป

korkeaw กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์พิพัฒน์ เป็นครูผู้ให้อย่างแท้จริงถึงแม้ว่าไม่ได้สอนด้วยตัวเอง เเต่การเป็นผู้แนะนำแนวทางไปสู่ขุมความรู้ เสมือนชี้ทางที่สว่างให้แก่ลูกศิษย์ ได้เดินทางอย่างสะดวกสบายเเละไม่หลงทางไปไกล นอกจากได้เรียนรู้วิชาการภาษาอังกฤษ เเล้ว ท่านอาจารย์ยังคงเเนะเเนวทางการเรียน และการใช้ชีวิต ให้กำลังใจ และเป็นแบบอย่างของบุคคลที่มีแต่ให้ด้วยความจริงใจ

ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงและขอส่ิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้อาจารย์มีสุขภาพร่างกายที่เเข็งเเรง และมีความสุขมากๆ นะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ อาจารย์พิพัฒน์


ขอบคุณอย่างสูงค่ะที่ทำให้ดิฉันและเพื่อน ๆ อีกหลายคนได้รับความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น ดิฉันมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวชีวิตของท่าน ได้ข้อคิดในหลาย ๆ อรรถรสอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ข้อคิดเกี่ยวกับดำรงชีวิต เรียนรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์สมัยที่ท่านเรียนที่ธรรมศาสตร์ ความรู้ด้านสังคมผ่านประสบการณ์การทำงานของท่าน รวมทั้งได้ข้อคิดในเชิงศาสนาที่ท่านสอนดิฉันให้รู้จักคำว่า ปล่อยวาง เพราะชีวิตคนเราไม่ยืดยาวนัก

เรียนด้วยความเคารพ ดิฉันอ่านบทความที่ท่านเขียนเกี่ยวกับตัวท่านทำให้ดิฉันเพลิดเพลินไปกับท่วงทำนองการเขียน หลายช่วงอ่านไปยิ้มไปค่ะ บรรยายได้เห็นภาพเลยค่ะ ขอชื่นชม ท่านเป็นนักเขียนที่ท่านถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างลงตัวและผู้ให้ความรู้ ความสุข และคติสอนใจค่ะ

ขอบคุณอย่างสูงค่ะ อาจารย์พิพัฒน์ ขอให้ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพใจเข้มแข็ง จิตใจเบิกบาน พบกับความสุขทุกวันนะคะ

ดิฉันได้รับความสุขผ่านเรื่องราวและความรู้ที่ท่านให้ ^_^ ขอให้ความสุขที่บังเกิดและจิตอันบริสุทธิ์ของอาจารย์ที่เป็นผู้ให้ต่อผู้อื่น จงสำเร็จเป็นพลังแห่งความสุขส่งกลับไปยังอาจารย์พิพัฒน์ด้วยเทอญ

จะนำลิงค์ของท่านเผยแพร่ต่อไปดังที่อาจารย์ปรารถนานะคะ ^_^

ด้วยจิตคารวะ

ชบาสีชมพู

tombo31@gmail.com

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณชบาสีชมพูครับ

ถ้ามีเวลาจะอ่านลิงค์ข้างล่างนี้เล่น ๆ ก็เชิญครับ
เขียนมาเล่าสู่กันฟังครับ

ขอคุยก่อนลาพักงาน 10 วัน

พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ
หลังจากที่อ่านบทความที่ท่านเขียนแล้ว ทำให้มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น มันคงเป็นความรู้สึกที่ทำให้นิ่ง ทำให้ใจสงบ ตื้นตัน บอกไม่ถูกค่ะ แต่พออ่านจบแล้วอยากขอพรให้ท่านมีที่สุขภาพที่แข็งแรง มีพลังกายและพลังใจ เพื่อต่อสู้กับทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้านะค่ะ ดีใจมากค่ะ ที่มีคนไทยที่มีน้ำใจขนาดนี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณพิพัฒน์เป็นอย่างมากนะคะ ที่สร้างสิ่งดี ๆ ในโลกอินเตอร์เนต ดิฉันได้รับความรู้จากบล็อกของคุณมากค่ะ
ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในโลกนี้ คุ้มครองคุณและครอบครัวให้มีความสุข ความเจริญ ความปลอดภัยในชีวิต และมีสุขภาพที่แข็งแรง แคล้วคลาดจากอันตรายด้วยนะคะ

Unknown กล่าวว่า...

ไม่มีการได้รับใด จะมีประโยชน์ไปกว่าการได้รับจากการให้โดยบริสุทธิ์ใจ

ด้วยความเคารพอย่างจริงใจครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ
และอยากให้มีบล็อกดีๆแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ขอเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อสังคมไทยที่เรารักกันตลอดไปค่ะ

The diary of bird กล่าวว่า...

สวัสดีครับอาจารย์พิพัฒน์

ผมเพิ่งเข้ามาเจอ blog นี้เมื่อไม่นานมานี้เอง
ส่วนใหญ่ผมเข้ามาอ่านไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆเลย
ผมขอบคุณมากเลยครับ ที่มีคนดีเอื้อเฟื้อความรู้ด้านภาษาอังกฤษ

สุดท้ายนี้ขอให้อาจารย์พิพัฒน์มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงครับ

Beast Regards,
birdolive

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตั้งใจหาที่เรียนภาษาอังกฤษ และเข้ามาบล๊อคนี้โดยบังเอิญ ประทับใจมาก ถึงดิฉันไม่ได้ทำงานเป็น "พัฒนากร" ให้กับรัฐบาล แต่เราก็ทำงานคล้ายกันค่ะ ดีใจและขอบคุณในสิ่งที่คุณได้ทำไว้นะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น ดีใจที่เจอและเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากบล๊อคนี้คะ จะติดตามบล๊อคของคุณโดยตลอด bookmarks ไว้เลยค่ะ :)

คนเอกอังกฤษ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะครับสำหรับความตั้งใจจริง ที่จะเผยแพร่ความรู้แก่คนทั่วไป เสียดายที่ผมรู้จักบล็อกนี้ช้าไปหน่อย..

บล็อกนี้ทำให้ผมหันกลับมามองตัวเองอีกครั้ง และเริ่มฟื้นฟูทักษะด้านภาษาหลายอย่างที่เรื้อไปนาน

ทั้งเอกสารที่มีให้ดาวน์โหลด และเว็บต่างๆ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทำบล็อกดีๆ แบบนี้ต่อไป

ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบุญกุศลต่างๆ ที่ท่านเจ้าของบล็อกได้ทำมาตลอด จงดลบันดาลให้ประสบแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงขึ้นเป็นลำดับนะครับ

บุญรักษาครับ..

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่านแล้วน้ำตาคลอเลยค่ะ รู้สึกดีมากๆ ที่ได้เจอคนดีแบบนี้ คนดีที่เริ่มจะหายากขึึึ้นในสังคม ขอให้บุญกุศลที่คุณได้ทำบล็อกนี้ส่งผลให้คุณมีความสุขมากยิ่งขึ้น
จริงๆ แล้วได้เจอบล็อกนี้มานานหลายเดือนแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องห่างหายจากอินเตอร์เนตชั่วคราว และพอดีวันนี้เป็นวันเกิด ได้พบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตเพิ่มขึ้น ขอบคุณค่ะ ถือได้ว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ค้นพบในปีนี้ ตั้งใจจะเข้ามาบ่อยๆ ค่ะ
ขอบคุณอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งค่ะ ที่จัดทำบล็อกดีดีแบบนี้ขึ้นมา คิดว่าความฝันของคนทุนทรัพย์น้อยแต่อยากเก่งภาษาอังกฤษคงเป็นจริงขึ้นได้ก็คราวนี้แน่ เป็นประโยชน์มากค่ะ ดีใจจริงๆที่มาเจอบล็อกนี้ อ่านจนไม่หวาดไม่ไหวเลยค่ะ ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย และบุญกุศลนี้ จงดลบันดาลให้ท่านพิพัฒน์และพี่ทุกๆท่าน จงประสบแต่ความโชคดี ในทุกๆด้านนะคะ ขอให้โรคภัยต่างๆจงหายไป บางโรคถึงแม้ไม่หายขาดแต่ก็ขอให้ทุเลาเบาบางลงนะคะ สู้ๆๆต่อไปค่ะ ขอให้กำลังใจคนดีๆที่สร้างสิ่งดีดีให้สังคมแบบนี้ อยู่ไปนานๆ ขออนุญาตแนะนำนิดนึงนะคะ จากที่เคยได้ยินมา ว่าการรับประทานอาหารชีวจิต และการใช้ชีวิตแบบชีวจิต ช่วยให้อาการเบาหวานทุเลาลงได้ (จากที่เคยอ่านเจอในหนังสือน่ะค่ะ)รวมทั้งต้นกระดุมทองตากแห้งถ้านำมาต้มกรองเอาแต่น้ำ แล้วดื่มแทนชาจะช่วยได้มากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีใจที่ในประเทศนี้ยังมีคนดี ๆ อย่างคุณอยู่ รู้สึกดีใจและภูมิใจทีอย่างน้อยคนที่ดีและเขามีโอกาสที่จะทำอะไรดี ๆ ดีกว่าบางคนที่มีทั้งเงินและโอกาสแต่กลับทำแต่เรื่องที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน สำหรับดิฉัน ก็ยังคงทำความดีทุกครั้งที่มีโอกาสเช่นกัน อาจจะยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของคุณ แต่ในฐานะข้าราชการคนนึงก็อยากจะให้บ้านเมืองที่เราอยู่นี้มีแต่ความสุข สงบ ยังไงก็ขอให้คุณหายเร็ว ๆนะ คะ คนดี ๆ อย่างคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องคุ้มครองอยู่แล้วนะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทราบซึ้งใจจริง ๆ ค่ะ ขอให้ความดีที่ทำคุ้มครองอาจารย์ให้ปลอดภัยจากทุกสิ่ง และมีความสุขมาก ๆ นะคะ ได้อะไรจากเว็บนี้เยอะเลยค่ะ ทั้งภาษาอังกฤษและข้อคิดดี ๆ ขอบพระคุณมากนะคะ

ปานจิตร กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะอาจารย์พิพัฒน์ ขอเรียกว่าอาจารย์นะคะ วันนี้(1 มิ.ย. 52) เป็นวันแรกที่ไำด้เจอเว็บนี้และใช้เวลาอยู่กับเว็บนี้ครึ่งวันและส่งเมล์บอกต่อเพื่อน ๆ ขอบคุณมากจริงๆ ที่อาจารย์ ได้ทำเว็บนี้ขึ้นมา ขอบคุณ

The diary of bird กล่าวว่า...

ขอให้ อาจารย์พิพัฒน์ มีความสุขกับการเผยแพร่ความรู้มากๆนะครับ
หลังจากเจอบล็อคของอาจารย์พิพัฒน์ ผมก็เข้ามาอ่าน
บล็อคของอาจารย์พิพัฒน์แทบทุกวัน
เพราะทุกวันอาจารย์พิพัฒน์จะมีเรื่องอัพเดทเสมอ

ขอบคุณจากใจจริงครับ

เบิร์ด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารย์มากครับ

ขอให้พระคุ้มครองอาจารย์ครับ

tik

off กล่าวว่า...

ขอบคุนมากครับ สำหรับความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่ในบล็อคนี้ เป็นประโยชน์กับผมมากจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอคาระวะ 1000 จอก
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความประสบการณ์
ดีๆแบบนี้ ทำได้ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่างเลย
นอกจากภาษาอังกฤษ ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น

และก็ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงตลอดๆไปนะครับผม


Dove

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เพิ่งเจอblog นี้โดยบังเอิญมา 1อาทิตย์แล้ว จากการที่ Search VOA.ดีใจที่ได้เจอblog เหมือนตอนนี้มีเพื่อนร่วมเรียนภาษาด้วยกันทำให้มีอะไรใหม่ๆ จากเดิมเข้าแต่ BBCและVOA>>> ดิฉันรู้สึกดีมากๆ จนอยากจะเขียนแสดงความเห็นทั้งๆที่ปกติไม่เคยแสดงความเห็นใน webใด>>>คุณได้เมตตาต่อผู้อื่นโดยมิหวังผลตอบแทน ขอบคุณมากค่ะ>>ความรู้สึกดิฉันเหมือนตอนที่ได้ฟังปฏิจสมุปบาทของทางพุทธทาสครั้งแรก ก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณท่านพุทธทาสที่ศึ่กษาแล้ว เข้าใจแล้วก็ไม่ทิ้งพวกเรายังอุตส่าห์นำมาเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังอย่างพวกเราที่เกิดไม่ทันท่านได้ศึกษาและเข้าใจได้ง่ายขึ้น อาจารย์พิพัฒน์ก็เช่นกัน>บุคคลดังท่านนี้แหละที่ดิฉันพร้อมที่จะไหว้โดยระลึกถึงความเมตตาที่มีในครั้งนี้ค่ะ... ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ผมมีความสุขครับที่ได้ช่วยเหลือคนไทยเราด้วยกันแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ ดีใจครับที่ท่านได้รับประโยชน์จากบล็อกนี้
-พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ อาจารย์พิพัฒน์
เข้าเวปของอาจารย์เป็นครั้งแรกค่ะ พอดีอยากฝึกภาษาอังกฤษ เลย search"Free test english " แล้วมาเจอเวปของอาจารย์ค่ะ รู้สึก อึ้ง ทึ้ง เจ๋ง ค่ะ ต่อไปก็คงจะขอเข้ามาหาความรู้ในเวปของอาจารย์บ่อยๆค่ะ (ปกติ ไม่ชอบเขียนความคิดเห็น แต่นี่ ไม่เขียน ไม่ได้แล้วค่ะ)
ขอบคุณที่มีเวปดีๆที่ไม่เสียตังค์
ขอบคุณอาจารย์ที่ทำเวปนี้ขึ้นมา
ขอบคุณที่มีคนที่มีจิตใจดีอย่างอาจารย์
อีกครั้งขอขอบคุณที่มีคนที่มีจิตใจดีอย่างอาจารย์ที่ทำเวปนี้ขึ้นมาที่เป็นเวปดีๆทีไม่เสียตังค์ค่ะ

เป็นการให้ที่ไม่มีราคา แต่มีค่าอย่างมหาศาลค่ะ
สุดท้ายขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ

Easy English in my Style กล่าวว่า...

ผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งครับและถือเป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้รู้จักท่าน ผ่าน blog นี้ รู้สึกถึงความตั้งใจ จนดลใจให้ผมอยากเก่งและรู้สึกเก่งภาษาอังกฤษเหมือนอาจารย์ มากกว่านั้นผมยังอยากทำอะไรบางอย่างให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่นๆ อย่างท่านด้วยครับ...ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษฟื้นฟูแกรมมาร์ หลัก structure ท่องศัพท์อย่างจริงจัง มาได้เกือบปีแล้วครับ รู้สึกดูหนังฝรั่งสนุกขึ้นมาก มั่นใจมากขึ้น ฟฝัข่าวภาษาอังกฤษรู้เรื่อง...ยิ่งผมมาเจอ blog ของอ. แล้วผมรู้สึกมั่นใจ 1000 % ครับว่าผมต้องสื่อสารกับฝรั่งตาน้ำข้าวได้สบายแน่ๆ ในอนาคตอันใกล้....ขอบคุณอย่างสูงยิ่ง..

Glinwine กล่าวว่า...

พอดี search เจอ อยากจะฝึกภาษาอังกฤษค่ะ แล้วก็เริ่มติดตามวันละนิดวันละหน่อย (วันนี้วันที่2เองค่ะ) บล็อกของคุณพิพัฒน์เป็นประโยชน์มากๆ ยิ่งได้อ่านประวัติของคุณพิพัฒน์ด้วยแล้ว ยิ่งมีความรู้สึกตื้นตันจนน้ำตารื้นนิดๆ อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงชีวิตเฉียดตาย และความมีน้ำใจเอื้ออาทรให้กับคนในนี้ด้วย ถ้ามีโอกาสได้เจอ จะขอนำพวงมาลัยไปกราบ ในฐานะที่เป็น "อาจารย์/ครู" และแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่เข้ามายังบล็อกของอาจารย์ด้วยค่ะ

ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูง
Glinwine

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ Glinwne ครับ
ขอบคุณครับในถ้อยไมตรีที่มอบให้ แต่จริง ๆ แล้วผมก็ได้รับอะไรมากมายจากการทำบล็อกนี้ ลองย้อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าสุดท้ายของสิ่งที่ผมเล่าก็ได้ครับ
พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เสียดายมากจริงๆค่ะ เพิ่งได้พบ
บล็อกของคุณ มีประโยชน์มาก
ชื่นชมในความเสียสละของคุณนะคะ
ขอบคุณมากๆ จะแนะนำต่อๆไปค่ะ
ขอให้สุขภาพดี แข็งแรงตลอดไป
เพื่อสร้างสรรคุณประโยชน์ให้สังคม
ตามเจตนา ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ/

stit กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
stit กล่าวว่า...

วันหนึ่งผมให้ผู้ช่วยของผมหา Audiobook สำหรับเอาไว้ฟังทำความคุ้นหูระหว่างการเดินทางอันยาวนานไปต่างแดน
แทนการดูหนังฟังเพลงที่ทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน ช่างบังเอิญเหลือเกินที่หลังจาก download Audiobook ไปได้หลายเล่ม
นึกจะขอบคุณเจ้าของ Blog จึงชำเลืองหาจนพบ Pipat's English Blog ด้านล่าง ในสมองผมสะกิดว่าผมมีคนรู้จักที่ชื่อพิพัฒน์
และเคยแนะนำ Blog นี้มาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จึง Click link เข้าไปอ่าน เรื่องส่วนตัวที่ผมอยากเล่า
เลยแน่ใจว่าเป็นคุณพิพัฒน์ที่ผมรู้จักจริงๆ อ่านแล้วทำให้รู้จักไปถึงหัวใจ ใจเพชรแท้ๆ

ตอนนี้ Blog ของคุณพิพัฒน์มีข้อมูลอันมีประโยชน์แก่สังคมผู้สนใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นกว่าครั้งแรกๆที่ผมเคยเข้ามาชม
ถ้าคำขอบคุณทำให้คุณพิพัฒน์มีความสุขได้ ก็ขอขอบคุณตลอดไปครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตามมาขอบคุณ -/l\-

pure.purity

Aey กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้และแง่คิดดีๆ

ขอให้คุณพิพัฒน์มีความสุข สุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายกำลังใจที่ดี ส่ิงศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองนะคะ ^ ^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พยายามเรียนภาษาอังกฤษ มาหลายปีแล้วค่ะ อยากไปเรียนต่อต่างประเทศมาก เปิดมาเจอที่นี่ ดีมากเลย พอได้อ่านเรื่องส่วนตัวของอาจารย์แล้ว เป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ในระบบราชการดีค่ะ เพราะกำลังท้อแท้กับงานราชการที่ทำอยู่ ทำไมนายไม่เป็นอย่างอาจารย์บ้างหนอ รู้สึกว่ายิ่งทำงานนานๆไป อุดมการที่เคยตั้งใจไว้ชักจะเริ่มมอดลงทุกที
ขอบคุณมากๆต่ะสำหรับความรู้ภาษาอังกฤษ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารย์พิพัฒน์มากค่ะ ต้องยอมรับว่าิblog ของอาจารย์สุดยอดของที่สุดจริง ๆค่ะ ตั้งแต่หาข้อมูลด้านภาษาอังกฤษมาไม่ว่าจะเป็นเวปไทยหรือเทศยังไม่เคยเห็นแหล่งรวมความรู้ภาษาอังกฤษมากมายขนาดนี้ โดยส่วนตัวแล้ว หนูก็เป็นคนที่บ้าภาษาอังกฤษอย่างมากมาย ปกติจะ search หาความรู้Englishใส่ตัวอยู่เสมอ พอมาเจอblog นี้โดยบังเอิญ ก็หยุดไว้ที่นี่ที่เดียวเลย ไม่ต้องไป googleที่ไหนอีกแล้ว ที่นี่มีคำตอบให้หนูหมดเลย ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ สำหรับการให้อันยิ่งใหญ่ คือให้ความรู้ และขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจให้กับเพื่อนคนไทยด้วยกัน ขอให้พระเจ้าอวยพรอาจารย์นะคะ และขอให้โรคภัยไข้เจ็บได้บรรเทาและจางหายไปในเร็ววันนะคะ////อัญ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การเจ็บป่วยทางกายสังขารนั้น ไม่อาจฉุดรั้งการทำความดีของอาจารย์ได้เลย ดิฉันขอยกย่อง แสดงความนับถือและขอบพระคุณบุคคลตัวอย่างของสังคม
ขอบพระคุณจริงๆค่ะอาจารย์
จึงขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลกทั้งสามภูมิสิบทิศ ดลบันดาลให้อาจารย์มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น มีจิตใจที่ร่าเรงสดใส เป็นคนดีที่สังคมยอมรับนับถืออย่างนี้ ตลอดไป

Unknown กล่าวว่า...

เรียน คุณพิพัฒน์

ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยคุณพิพัฒน์อย่างมากที่ไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องส่วนตัวที่คุณอยากเล่า ทั้งๆ ที่แอบเข้ามาใช้ประโยชน์จากบล็อคนี้หลายต่อหลายครั้ง พอได้ในสิ่งที่ต้องการก็จะรีบออกไปโดยไม่ได้อ่านรายละเอียดของผู้จัดทำบล็อค (เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก)จึงต้องกราบขออภัยงาม ๆ มาณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง ที่คุณพิพัฒน์ได้อุตส่าห์เสียสละเวลา เสียสละแรงกาย ทั้ง ๆ ที่ควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ บล็อคนี้นอกจากจะทำให้ดิฉันได้ความรู้ภาษาอังกฤษแล้ว ยังทำให้เกิดความคิดดี ๆ ที่จะทำประโยชน์อื่น ๆ ให้แก่สังคมส่วนรวมบ้าง เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาที่เหลืออยู่ของเรามันมีอยู่มากน้อยแค่ไหน หากทุกคนคิดเหมือนกับคุณพิพัฒน์ดิฉันคิดว่า โลกของเราจะน่าอยู่มากขึ้น คนดีคงจะล้นโลก ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจของคุณพิพัฒน์มาก ปัจจุบันดิฉันไม่ทราบว่าคุณพิพัฒน์มีสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง แต่มั่นใจว่าคงต้องแข็งแรง สามารถต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างแน่นอน ขออำนาจบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ดลบันดาลให้คุณพิพัฒน์และครอบครัว จงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ อารมณ์แจ่มใส และมีความเพียบพร้อมในทุก ๆ สิ่งทุกอย่างที่หวังไว้ ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณมากค่ะ

NEViKUP กล่าวว่า...

อ่านบทความที่นี่ทุกครั้ง เหมือนได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่เสมอ
ขอบคุณนะครับ สำหรับบทความดีๆในภาษาอังกฤษ

ขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยอีกคนครับ

คุณขมพู กล่าวว่า...

ดีใจ ถูกใจ ที่ได้พบweb ดีดี
ขอบคุณอาจารย์
ขอให้พระ สี่งศักดิ์สิทธิคุ้มครอง ให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเองแวะเวียนมาเวบนี้เป็นประจำอยู่บ่อยๆเพื่อมาฝึกภาษาแล้วก้หาข้อมูลในเวบนี้ ผมชื่นชมกับคุณพิพัฒมาก ที่ทำเวบดีๆให้คนไทยได้มาศึกษาหาความรู้กัน มีไม่น้อยหรอกที่จะทำเวบดีๆแบบนี้ และที่สำัคัญเวบนี้ก็อัพเดชตลอดเวลา ผมพอนึกภาพออกว่าผู้เขียนมีความพยายาม เป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตนเองเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่อย่างงั้นแล้วไม่สามารถทำเวบดีๆอย่างนี้ไ้ด้ ใหนต้องมาสละเวลาส่วนตัวมานั่งทำอีก

ขอให้คุณพิพัฒมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนะครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณในคำอวยพรครับ
พิพัฒน์

นักศึกษา กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ
ผมไม่มีเงินไปเรียนพิเศษ แต่มีอินเทอเน็ต
ก็พยายามหาเว็ป ต่างๆ มาเจอเว็ปนี้ ช่วยผมได้มากทีเดียว

ต้องขอบคุณอย่างมากครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียน คุณ Pipat
ดิฉัน และ ลูก ได้ ประโยชน์ จาก web นี้ มากค่ะ
ขอบพระคุณ ค่ะ ขอให้สุขภาพแข็ง แรง และ ขอเป็นกำลัง ใจ ให้ ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอชื่นชมจากใจค่ะ สิ่งที่อาจารย์ทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่ทำได้ยากนะคะ(คือหาคนที่จะทำเช่นนี้ยากเต็มที) ด้วยผลบุญที่อาจารย์ให้วิทยาทานแก่ผู้คนมากมาย ขอให้หายป่วย มีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็ววันนะคะ กุ๊กไก่ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณพิพัฒน์มากๆ ที่แนะนำสิ่งที่ดีมีประโยชน์แก่คนทั่วไป

ขอพระเจ้าอวยพระพรให้คุณจงมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงตลอดปีใหม่ 2553 และตลอดไปนะครับ

Therm กล่าวว่า...

วันนี้เป็นวันแรกที่ได้มาเจอ blog นี้ครับ รู้สึกขอบคุณมากๆจนบรรยายเป็นคำเขียนไม่ถูก แล้วก็ผมคิดว่าจากสิ่งที่ได้เห็นในวันนี้จะทำให้ตัวเอง และคนอื่นอีกหลายๆคนมีความตั้งใจที่จะทำอะไรดีๆให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกมาก
ขอให้คุณพิพัฒน์มีร่างกายที่แข็งแรง ครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อนฝูงที่น่ารัก และมีความสุขกับสิ่งที่ทำตลอดไปในทุกๆเรื่อง และทุกๆวันนะครับ ^^v

กิติยา กล่าวว่า...

กราบเรียนอาจารย์พิพัฒน์

หลังจากหยุดปีใหม่มา อาทิตย์แรกของการทำงานก็วุ่นวายไม่ใช่น้อย กลับเข้าสู่วัฎจักรเดิม ๆ ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ
จนรู้สึกว่า ต้องมาตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างสำหรับชีวิตในปีนี้บ้างแล้ว เพราะปีที่ผ่าน ๆ มา ๆ ใช้ชีวิตอยู่กับงานซะส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอะไรพิเศษสำหรับแต่ละปี
จนกลายเป็นว่า ชีวิตส่วนตัวและความตั้งใจที่มีมาตอนเรียนจบมาใหม่ ๆ นั้นเลือนหายไปหมด ...

วันนี้เป็นครั้งแรกของวันหยุดที่ได้วางมือจากงาน แล้วนั่งเงียบ ๆ ใช้เวลากับตัวเองเพื่อคิดทบทวนและจัดลำดับว่า จะเลือกทำอะไรเป็นอย่างแรกให้กับตัวเองในปีนี้ดี
สิ่งที่ลอยเข้ามาในความคิดเป็นสิ่งแรกก็คือ ... ภาษาอังกฤษ กับความตั้งใจเดิมที่ว่า "ชั้นจะต้องเก่งภาษาอังกฤษให้ได้
จะตั้งใจเรียนและฝึกฝนด้วยตนเอง อาศัยแหล่งข้อมูลจากโลกไซเบอร์ วิทยุ เพลง และภาพยนต์ โดยที่ชั้นอยู่เมืองไทยนี่แหละ"

เมื่อความทรงจำนี้แล่นเข้ามาในหัว ก็จัดการเปิด Notebook ท่องโลกไซเบอร์อย่างไม่รอช้า ค้นหาไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ถูกใจซะทีเดียว
จน
แล้วจนเล่า ด้วยความโชคดี โชคชะตา หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้เปิดมาเจอ blog นี้เข้า พอคลิก ๆ ดูแต่ละหัวข้อ ก็รู้ทันทีว่า
นี่แหละ ... คลังข้อมูลมหาศาลที่ได้รับการกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดี ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจของอาจารย์พิพัฒน์
(ต้องขออนุญาตเรียกว่า อาจารย์ นะคะ เพราะสิ่งที่อาจารย์ทำให้มันเหมาะเจาะกับคำนี้จริง ๆ) และความช่วยเหลือของคุณศศิศ และคุณสมชาย (ที่อาจารย์ได้กล่าวถึง)
ช่วยให้ความตั้งใจอย่างแรกในปีนี้เดินทางไปถึงเป้าหมายได้สะดวกขึ้น

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้อาจารย์มีสุขภาพกายที่ดีขึ้น และสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เพื่อต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่
ขอให้จิตที่บริสุทธิ์และคุณความดีของอาจารย์กลายเป็นยาวิเศษที่ขจัดค่อย ๆ ความเจ็บไข้ได้ป่วยให้เลือนหายไปค่ะ

ด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง
กิติยา

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณกิติยาครับ
ขออนุโมทนาในความตั้งใจที่จะศึกษาภาษาอังกฤษ

ขอบคุณในคำอวยพรครับ ผมเชื่อว่าคำอวยพรของทุกท่านมีผล

พิพัฒน์

ชุลีกร กล่าวว่า...

เพิ่งเข้ามาดูครั้งแรกค่ะ รับรู้ได้เลยว่าเป็น WEB ที่ดีมากๆ รู้สึกชื่นชมกับแนวคิดที่ให้โอกาสคนในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทุ่มเทแรงการแรงใจในการสืบค้นข้อมูลที่ดีดีมาให้โฆษณา ก็ไม่มี (แอบคิดว่าเค้าทำอย่างนี้เพื่ออะไร) แต่เมื่อได้มาอ่านบทความนี้ ทำให้เข้าใจแนวความคิด และรู้สึกได้ถึงความผูกพัน ความจริงใจ ในการให้ความรู้โดยไม่หวังผลตอบแทนที่คุณพิพัฒน์มีให้ผู้อ่าน และผลจากการกระทำนั้นก็ส่งผลให้ผู้อ่านทุกท่านแสดงความปราถนาดีกลับมาด้วยความเต็มใจ รับรู้ได้เลยว่าโลกเรายังมีคนที่ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และก็ยังมีคนรับรู้ สนับสนุน และชื่นชมด้วยความจริงใจ และเต็มใจ ขอให้คุณพิพัฒน์มีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ การให้ความรู้คือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณจริงจริงค่ะ และก็อยากให้ทุกท่านที่รับรู้ถึงความจริงใจนี้ร่วมกันแสดงออก แสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ทำด้วยค่ะ เมื่อใครที่ทำความดีเราก็ควรสนับสนุน ส่งเสริม และชื่นชมค่ะ

kaitao กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ สำหรับทั้งคำสอนคำบอกเล่าและสิ่งที่นำมาให้จากใจ ขอบคุณจริงๆค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เข้าเวปคุณพิพัฒน์ มาเกือบครึ่งปี ก็เพิ่งได้เข้ามาอ่านบทความนี้ รู้สึกประทับใจมากๆ และทำให้รู้ซึ้งถึงความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้ ประสบการณ์ของคุณพิพัฒน์ อาจจะไปต่อลมหายใจให้อีกหลายๆคนเลยที เดียวนะครับ
แต่สิ่งที่อยากให้คุณพิพัฒน์ทราบก็คือ ชื่อของคุณพิพัฒน์ได้อยู่ในใจผมและในใจผู้คนอีกหลายๆคนไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้กันทุกคน ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ

แล้วจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

ด้วยจิตคารวะ
แดน...

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ
นี่เป็นครั้งแรกของหนูที่เพิ่งเข้ามาเว็บนี้ จาการเสิร์ซกูเกิ้ลเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ
จุดประสงค์แรกคือเราอยากจะเพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษของตัวเอง เพราะตอนนี้เรียนอยู่ปีสาม แล้วค่ะแต่ภาษาอังกฤษยังไม่ดีเท่าไหร่ ด้วยความที่ว่าเรียนจบป.ตรีแล้วอยากจะขอทุนไปเรียนต่างประเทศจึงทำให้ไขว่ขว้ามากขึ้น
พอเข้ามาที่เว็บนี้ สิ่งแรกที่เราอ่านไม่ใช่เรื่องบทเรียน ไม่ใช่การโหลดไฟล์ แต่คือข้อมูลส่วนตัวของผู้เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา
เพราะอะไรนะหรอค๊ะ เป็นเพราะว่าหนูอยากจะรู้ว่าผู้เขียนเป็นคนยังไง ทำไมถึงมาเขียน เพื่ออะไร แล้วเราก็จะประเมินบล็อกนี้ได้ ฮ๋าๆๆ หนูคิดอย่างนั้นจริงๆ
และพอได้อ่านเรื่องราวในหน้านี้ ก็ทำให้รู้สึกว่า แม้เราจะยังไม่ได้เริ่มต้นกับบทเรียนภาษาอังกฤษ แต่ชีวิตของเรามีสิ่งดีๆเกิดขึ้นอีกแล้ว ทำไมเราถึงโชคดีจัง ได้มาเจอเว็บดีๆ คนดีๆแบบนี้ และทำให้เรารู้ว่า เราจะติดตามเว็บนี้ต่อไปอีกแน่นอน มันไม่ได้สอนแค่ภาษาอังกฤษ มุมมองของผู้เขียนมีส่วนหนึ่งในการหล่อหลอม ขัดเกลา ชักชวนให้ผู้อ่านเป็นเช่นไร

ขอขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่นำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนมนุษย์
และขอให้คุณครู ขอเรียกว่าคุณครูนะคะ
มีสุขภาพที่แข็งแรง มีกำลังใจเต็มเปี่ยมในการทำสิ่งที่ครูรัก และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบคุณจริงๆ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณ อ.พิพัฒน์ สำหรับทุกๆ สิ่ง
ดิฉันขอให้ อ.สุขภาพแข็งแรง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคุณพิพัฒน์นะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดิฉันเป็นคุณครูสอนเด็กประถม แถบไม่มีเวลาได้ใช้อินเตอร์เน็ต ดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้โปรแกรมพจนานุกรมไทย ขอให้คุณพระคุ้มครองคุณและครอบครัวนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

กล้าพูดไดเลยว่า บล๊อกที่คุณทำ ทำด้วยหัวใจอย่างแท้จริงครับ!
ขอให้คนที่จิตใจประเสริฐเช่นคุณ พบแต่สิ่งดีๆนะครับ
เพราะ ทานที่คุณให้แก่พวกเ้รา เป็นทานที่มีผลบุญมากเหลือเกิน ผมเชื่อว่า กรรมดีที่คุณได้สร้าง"เหตุ"ไว้ จะนำผลมาสู่คุณอย่างท่วมท้นแน่นอนครับ

ขอบพระคุณจากใจ (ผมจะพยายามอ่านหน้าต่างๆของคุณให้เยอะที่สุดคับ!)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เดิมทีตัวเองเป้นนักศึกษาที่ไม่ค่อยใฝ่รู้เท่าไรนัก
จนกระทั่งมาเจอบล็อคนี้ทำให้รู้ว่าการเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องยาก
และไม่มีความลำบากใดจะชนะความพากเพียร

ขอบพระคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆ และทุกแง่คิดที่ฝากไว้นะคะ

ขอให้พระคุ้มครองคนดีๆอย่างอาจารย์ค่ะ

Poy กล่าวว่า...

ขอบคุณอ. พิพัฒน์ มากๆค่ะ

ดีใจที่ได้มาค้นพบ blog อาจารย์ค่ะ สุดยอดมากๆๆ :)

ขอบคุณที่เล่าเรื่องสนุกๆให้ฟัง
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ
ขอบคุณสำหรับเคล็บลับ
ขอบคุณที่ทำให้หนุมีกำลังใจ-แรงบันดาลใจ
สุดท้าย ขอบคุณที่โลกนี้มีคนอย่างอาจารย์ค่ะ ^^


ขอให้คุณพระปกป้องค้มครองคนดีๆอย่างอาจารย์ให้สุขภาพแข็งแรง มีแต่ความสุข สดชื่น สุขกาย สบายใจนะคะ

ขอฝากตัวเป็นศิษย์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลยนะคะ

krudah กล่าวว่า...

ขอบคุณพระเจ้า ที่สร้างคนดีดี ที่แบ่งปันสิ่งดีดี ให้กับโลกนี้ ขอให้ผลบุญส่งผลให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง หายจากอาการป่วยโดยเร็ววัน

เวปนี้ ให้ประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้ามีคำกล่าวใดที่ยิ่งใหญ่กว่าคำว่า ขอบคุณ ก็จะขอกล่าวคำนั้น แต่เมื่อไม่มีน้องก็ขอกล่าวคำว่า"ขอบคุณ"

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คงต้องกล่าวขอบคุณอีกครั้งถึงจะเหมือนๆท่านอื่นที่ได้กล่าวไปแล้ว แต๋มจะสวดมนต์ขอให้อ.พิพัฒน์แข็งแรงนะคะ เคยเข้ามาดู blog นานพอควรแล้ว แต่ไม่ได้จริงจังในการเรียนรู้ พอมาครั้งนี้มีเวลา และ สติพอที่จะได้เรียนรู้และได้รับรู้ข้อความดีดีจากอ. แต๋มเลยต้องถามตัวเองว่า มีอะไรที่เราพอจะทำเพื่อช่วยเหลือคนอื่นหรือสังคมได้บ้าง นับถือสิ่งที่อ.ทำนะคะ
ขอบคุณค่ะ

suth. กล่าวว่า...

ชื่นชมครับ อ.พิพัฒน์ ผมชอบภาษาอังกฤษ และเคยทำงานที่ระนอง เพชรบุรี เช่นเดียวกับอาจารย์ ตอนนี้ผมยังอยู่เพชรบุรี จะติดตาม blogนี้ต่อไปครับ

Chatchay B. กล่าวว่า...

รียนอาจารย์พิพัฒน์และทีมงานทุกท่าน
ผมเพิ่งได้เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ อาจารย์เมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากผมต้องการเรียนรู้ภาษาิอังกฤษเพิ่มเติม เพราะว่าผมเรู้ตัวว่า ป็นคนไม่ีเก่งภาษา Eng เลย
และ ภาษา Eng มันจำเป็นมากในการทำงานรวมถึงการไปสมัคงานในปัจจุับันนี้.
เมื่อผมได้อ่าน ข้อมูลต่างๆที่อยู่ใน Blog นี้ ตอนแรกผมรู้สึกประหลาดใจมาก และ ทึ่งกับมันมาก เพราะ มันเป็น แหล่งข้อมูลต่างๆที่มีคุณค่ามหาศาลมากมายนัก และที่สำคัญ
คือไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งผมคิดว่ามันอะไรที่ละเืิอียดอ่อนและพิธีพิถันและที่สำคัญมันมาจากใจของคนที่ทำมันขึ้นมา เพื่อให้ความรู้แก่คนที่ต้องการใฝ่รู้ใน ภาษา Eng.
ผมไม่รู้ว่าจะเขียนคำอะำไรมาบรรยายความรู้สึกที่มีในตอนที่กำลังเขียนจดหมายฉบับนี้อยู่
แต่ผมแค่อยากบอกให้รู้ว่า ขอขอบพระคุณ อาจารย์พิพัฒน์และทีมงานทุกท่าน ที่สละเวลามันมีค่าของทุกท่าน โดยไม่คิดหาผลตอบแทนใดๆเลย
ซึ่งมันหาได้ยากยิ่งกับสังคมปัจจุบันนี้ (ถ้าเป็นตัวผมก็ไม่รู้ว่าจะทำไ้ด้อย่างนี้หรือไม่จนผมรู้สึกละอายแ่ก่ใจเหมือนกัน).
ขอให้ทุกท่านประสพแต่สิ่งดีๆ โดยเฉพาะอาจารย์พิพัฒน์ ขอให้สุขภาพแข็งแรง หายจากโรคภัยต่างๆ
สุดท้ายนี้ผมจะติดตาม blog นี้ไปตลอด และ จะแนะนำ Blog นี้ให้แก่คนที่ต้องการเรียนรู้ภาษา Eng รวมถึงแนะนำ Eng เท่าที่ผมได้เีรียนรู้มาจาก Blog นี้ (ผมก็คงทำได้เพียงเท่านี้).

TNR กล่าวว่า...

แล้วคุณ Chatchay B. จะยิ่งประหลาดใจ เพราะทั้งหมดที่คุณเห็น เกิดจากคนคนเดียวครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณที่โลกนี้มีบุคคุลที่ดีแบบคุณ
ดิฉันขออนุโมทนาบุญที่ยิ่งใหญ่นี้กับคุณพิพัฒน์ด้วยค่ะ
รู้สึกดีใจมากที่ดิฉันมีบุญมากพอได้มารู้จักเว็บที่มีประโยชน์แบบเว็บนี้ ได้รู้ว่าคนที่ดีที่มีน้ำใจทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ยังมีอยู่จริงบนโลกของเรา
ขอให้คุณหายป่วยในเร็ววัน สุขภาพแข็งแรงนะคะ

ธนัช กล่าวว่า...

ขอบคุณอ.พิพัฒน์มากครับ ที่ได้มอบคลังความรู้มหาศาลฝากเอาไว้ ผมกำลังเรียนป.โท ต้องการหาดิกชันนารี ฉบับราชบัณฑิตสถาน ก็เลยมาเจอเวบนี้ อ.เป็นเบาหวาน อย่านอนดึกมากนะครับ อาจจะทำให้คุมน้ำตาลไม่ได้ ผมเป็นหมอ อยู่กทม.
ถ้ามีสิ่งใดที่พอจะช่วยเหลือได้ก็ยินดีครับ
mengmaneaw@hotmail.com
พ.ธนัช

preedatracking กล่าวว่า...

สวัสดีครับ คุณพิพัฒน์

ผมเป็นอีกคนที่จบสายวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูเลยครับ ที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่ว่าใช้ลูกบ้า คงผ่านมาไม่ได้ ประมาณว่า เห็นฝรั่งเป็นเป็นต้องเหงื่อตก สู้ตายฟะ อะไรประมาณนั้น

ยินดีมากเลยครับ ที่ได้อ่านเรื่องราวของพี่ (เรียกให้พี่ใจชื้นนะครับ จะได้อยู่กันนานๆ)

ความรู้สึกของผมยัง ผมไม่สามารถเทียบพี่ได้เลยเรื่องความเสียสละ แม้ว่าผมจะเป็นคนพิการรุนแรง และทำงานด้านการพัฒนาอาชีพให้คนพิการ เพราะผมปลูกฝังเรื่องเชิงพาณิชย์ควบคู่ แต่อาจเพราะว่า ผมมีองค์ประกอบที่อาจต่างจากพี่ จึงมีความจำเป็นที่ยังต้องเป็นทั้งผู้ให้ และรับในคราวเดียวกัน ซึ่งต่างจากพี่ ที่มุ่งที่จะให้เป็นหลัก

ขอบคุณแทนคนที่อาจจะไม่ได้แสดงความคิเห็น แต่ผมเชื่อว่า ทุกคนที่เข้ามา ส่วนใหญ่คงคิดเหมือน

สงสัยว่า ส่วนใหญ่จะห่วงสุขภาพของพี่ เพราะถ้าเขียนมาเป็นพันๆ คน พี่ต้องอ่านเยอะแน่ๆ เลยครับ

ดูแลสุขภาพนะครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณปรีดา ลิ้มนนทกุลครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมลองดูในเน็ต เห็นเรื่่องราวเกี่ยวกับคุณมากทีเดียว
พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสำหรับสิงดีๆ มันมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เรื่องของอาจารย์เป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับหนูค่ะ ขอบคุณมากๆอีกครั้ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอขอบคุณ MR.พิพัฒน์ ด้วยความจริงใจ
ขอขอบคับผมคนหนึ่งที่ติดตาม blog ของท่านและแอบชื่นชมคนที่ทำ blog นี้ มานานแล้ว ค้นหารูปภาพเจ้าของ อยากเห็นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่หาไม่เจอ ก็เลยไม่เคยรู้จัก ล่าสุดนี้ได้อ่านเรื่องเล่าที่ท่าน post ไว้เมื่อวันที่ วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ก็เลยพอจะรับรู้เรื่องส่วนตัวท่านบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอขอบคุณมากที่พัฒนา blog นี้ขึ้น เพื่อให้ความรู้ด้านภาษาภาษาอังกฤษแก่ประชาชนทั่วไป ผมได้รับความรู้มากมายจาก blog นี้ อยากให้ท่านมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยทั้งปวงและอยู่กับ blog นี้ตลอดไปครับผม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

:: ชอบวิธีคิดของคุณพิพัฒน์มากครับ ชอบทุกเรื่อง และชอบที่สุด คือเรื่อง "ทุกวันคือกำไรชีวิต" ก็ขออวยพรให้คุณพิพัฒน์มี "กำไร" ของชีวิต เยอะๆ นะครับ เพราะยังไงคุณพิพัฒน์ก็นำ "กำไรชีวิต" มาแบ่งปันเอื้อเฟื้อแก่สังคมอยู่แล้ว

:: เป็นกำลังใจให้มีเรี่ยวแรงกำลังในการพัฒนา Blog ต่อๆ ไปครับ

:: ได้แต่แอบหวังเล็กๆ ลึกๆ ว่า "บุคคลผู้บ้าพลังเรื่องลิขสิทธิ์" จะไม่เข้ามาวุ่นวายกับ Blog นี้ครับ

iamcw16a@gmail.com

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เช้าวันนี้ตั้งใจจะหาข้อมูลเพื่อจะซื้อทอลกิ้งดิกสักตัวหนึ่ง แต่ไปมายังไงไม่รู้กลับมาเจอเวปบล็อกของคุณพิพัฒน์นี้เข้า นั่งอ่านไปเรื่อยจนเลยเวลากินข้าวเที่ยง เปิดหน้านี้มาอ่านเหมือนได้เจอคนที่มีน้ำใจที่เป็นคนไทย มีชีวิตเลือดเนื้ออยู่ในสังคมเดียวกัน คิดแบ่งปันโดยไม่เรียกร้อง ขอชื่นชมจากใจ และขอขอบคุณ ขอให้มีกำลังใจและขอให้สุขภาพดี ผมเซฟหน้านี้ไว้เครื่อง โดยหวังจะให้ลูกชายได้อ่าน เพื่อให้เห็นตัวอย่างนักสู้หนึ่งคน
ทนายแผน

Unknown กล่าวว่า...

ผมเห็นด้วยและชอบมากเลยครับสำหรับแนวคิดของครูพิพัฒน์

ผมว่าสังคมทุกระดับไม่ว่าจะระดับหมู่บ้าน ระดับประเทศ ระดับโลก ต้องมีคนที่มีแนวคิดลักษณะนี้เยอะ ๆ แล้วสังคมจะน่าอยู่ขึ้นอย่างมากเลย แค่ผมได้อ่านบทความนี้แล้วได้รับรู้ว่าอย่างน้อยมีครูพิพัฒน์หนึ่งคนที่มีแนวคิดดี ๆ อย่างนี้ ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงใจที่จะให้คนอื่น ๆ ทำความดีมากยิ่งขึ้น

ผมเป็นข้าราชการคนหนึ่งเหมือนกันครับ แต่ก่อนเคยคิดว่าตนเองซื่อสัตย์ทำงานอย่างเต็มทีก็คิดว่าตนเองทำดีแล้ว แต่อ่านบทความนี้แล้วที่ผ่านมาผมเพียงแค่ทำตามหน้าที่ ที่ควรจะต้องทำเท่านั้นเอง แต่ผมก็ยังภูมิใจนิด ๆ ว่าผมทำงานคุ้มเงินภาษีที่ประชาชนทุกคนจ่ายเป็นเงินเดือนให้ผม และต่อจากนี้ไปก็คงต้องทุ่มเทมาก ๆ ยิ่งขึ้น (เพราะที่ผ่านมามีท้ออยู่บ้างเหมือนกัน ว่าทำไมผู้บริหารบางคนจึงเห็นแต่ประโยชน์ตนเองไม่เคยมองประโยชน์ส่วนรวมบ้างเลย)

ปีนี้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตอีกแล้วอย่างหนึ่งคือ ได้มีโอกาสได้รู้จักครูพิพัฒน์ ขอบคุณมากนะครับและขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณทนายแผน คุณ Tom และทุกท่าน ในไมตรีจิตและคำอวยพรให้ผมมีสุขภาพดี ตอนนี้อายุชักจะมากขึ้น ก็คงไม่แข็งแรงเหมือนตอนหนุ่ม ๆ แต่ยังโชคดีที่โรคที่เป็นอยู่ไม่ทรุดโทรมลงไปมากกว่านี้
ขอบคุณทุก ๆ ท่านอีกครั้งนะครับ

พิพัฒน์ - blogger

kibkib กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะคุณอาพิพัฒน์ .. หนูเพิ่งเจอเว็บนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รู้สึกเสียดายนิดๆ เล่นเน็ตก็ทุกวัน แต่ทำไมเพิ่งมาเจอเว็บไซต์ดีๆแบบนี้ หลังจากได้อ่านบทความที่คุณอารวบรวมไว้ก็ "ติดใจ" เข้ามาอ่านทุกๆวัน โหลดหนังสือเก็บไว้อ่านคืนละเล่มสองเล่ม .. ปกติหนูไม่ค่อยเก่งภาษาซักเท่าไหร่ บวกกับความพยายามที่มีอยู่น้อยนิด .. ภาษาอังกฤษก็เลยไม่พัฒนาซักที แต่ต่อไปนี้หนูจะตั้งใจให้มากๆ จะดูคุณอาเป็นแบบอย่าง ..อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษวันละฉบับ และขยันให้มากขึ้น หนูขอขอบคุณคุณอามากเลยนะคะ

ปล. ขอให้คุณอาหายป่วยไวๆนะคะ ^_^

Mina no Tabo กล่าวว่า...

ขอให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นนะคะ
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ

และขอบพระคุณสำหรับบลอกดีๆนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ที่มอบให้นะคะ
ขอให้มีความสุขมาก ๆ มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ คุณพิพัฒน์ ที่สละเวลาให้ความรู้กับพวกเราค่ะ หนูเคยเจอ เว็ปของคุณตั้งแต่ในเวป http://www.budpage.com/ โดยใช้ชื่อ 'KLMN'เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นก็ติดตามอยู่แล้ว เว็ปก็หายไปไม่รู้ว่าจะติดต่อที่ไหน หนูเพิ่งจะเจอเว็ปใหม่ของคุณพิพัฒน์เมื่อไม่กี่วันนี้เองค่ะ แล้วหนูจะเขียนมาใหม่น่ะค่ะ
อัมพร

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีคะอาจารย์พิพัฒน์

ขอขอบคุณอย่างสูงแด่อาจารย์ที่รวบรวมและเผยแผ่ให้ความรู้จนเป็นประโยชน์อย่างมากกับเหล่าผู้อยากเรียนอังกฤษอย่างพวกเรา

ด้วยความเคารพ
น้อยหน่า ณ ปากน้ำ

Mark's Blog กล่าวว่า...

ทำfacebook fanpageไว้ตอบคำถามแฟนๆ ก็ดีนะครับ

ผมอ่านมาแต่บรรทัดแรกมาจนบรรทัดสุดท้ายนี้

น้ำตาคลอเลยครับ บทความหลายร้อยพันบทความที่เขียนออกมา มันคงเหนื่อยจนแทบบรรยายไม่ออกเลยนะครับ

แต่ท่านก็ทำมันจนเสร็จ ผมปลื้มแทนเลยครับผม

ผมจะตั้งใจฝึกให้เหมือนเดิมทุกๆ วันครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณปาท่องโก๋ครับ
บางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าห่างเหินกับผู้อ่านเพราะไม่ค่อยได้ตอบที่หลายท่านเขียนมา เรื่องของเรื่องก็คือผมไม่ค่อยมีเวลาตอบครับ งานประจำที่ทำมันยุ่ง
พิพัฒน์ - blogger

สมเกียรติ กล่าวว่า...

สวัสดีครับอาจารย์พิพัฒน์
ผมชอบเข้ามาที่เว้บนี้บ่อยๆผมเป็นคนหนึ่งที่เรียนภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่องไม่เก่งเลย แต่ก็พยายามเรียนรู้หาเว็บดีๆเพื่อมาสอนลูกเพื่อให้เขาเก่งไม่แย่เหมื่อนพ่อ แล้วมาเปิดให้ลูกดู หัดฟัง หัดอ่านตาม จากแหล่งข้อมูลต่างๆที่เชื่อมกับเว็บนี้ มันมีประโยชนืมาก ขอขอบคุณครับกับการเสียสละเวลาเพื่อคนไทยและผมขอเป็นกำลังใจในความดี ความมีน้ำใจ การทำความดีแม้คนจะไม่เห็นแต่สิ่งศักดิ์หรือเทวดาท่านเห็น ขอให้มีสุขภาพแข้งแรงทังกายและใจ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณสมเกียรติครับ
ขอบคุณครับในคำอวยพร
พิพัฒน์ - blogger

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้แรงบันดาลใจอย่างมากเลยค่ะในการทำสิ่งดีๆให้คนอื่น ขอบคุณมากค่ะ เชื่อว่าสิ่งที่คุณพิพัฒน์ให้จะส่งผลให้คุณได้รับแต่สิ่งดีๆกลับไปนะคะ

สรัช กล่าวว่า...

สวัสดีคับ อาจารย์
ผม อยู่ ม.3 ชอบอังกฤษมาก และ เว็บนี้เองทำให้ ผมเก่งอังกฤษ ผมจะพยายามให้เหมือนความตั้งใจที่อาจารย์ถ่ายทอดให้นะคับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

สรัช
จากประสบการณ์ของคนที่ผ่านโลกมาก่อน ลุงขอบอกเธอว่า ถ้าจุดเริ่มต้นคือความตั้งใจ และจุดสุดท้ายคือความสมใจ บนเส้นทางอันยาวไกลที่เธอต้องเดินผ่านนี้ เธออย่าหวังว่าเธอจะพบแต่ ความมีกำลังใจ, ความรื่นเริงใจ,หรือ การได้ผลดังใจ, หลายครั้งที่เธอพยายามฝึกให้เก่งภาษาอังกฤษ หรือทำอะไรสักอย่างที่ดี เธออาจจะพบสิ่งที่ทำให้เธอหมดกำลังใจ, หดหู่ใจ หรือ ได้ผลที่ไม่เป็นไปดังใจ

ลุงขอย้ำว่า ถ้าเธอต้องการไปให้ถึงปลายทาง คือ ความสมใจ ความตั้งใจของเธอจะต้องมีมากพอที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นในใจ ความตั้งใจนั้นดี แต่ต้องมากเพียงพอและต่อเนื่อง

ขอให้ชีวิตของหลานประสบแต่ความสำเร็จเพราะความตั้งใจที่ดีงามนะ

ลุงพิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับเนื้อหาสาระที่ดีๆ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเก่งในด้านภาษาอังกฤษ แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องให้เราต้องมีการกระตือรือร้น เพราะต้องเรียนต่อ ระดับ ดร. เลยต้องฝึกฝนให้เก่งๆ ก็เพราะได้เรียนรู้จาก Web Blog ของคุณนี้ หละค่ะถึงทำให้ดิฮันมีกำลังขึ้น เยอะ
เป็นกำลังใจให้สู้ๆๆๆ ต่อไปน่ะค่ะ เพื่อพัฒนาคุณพัฒนาชาติของเราต่อไปค่ะ
parrot_09@hotmail.com

Unknown กล่าวว่า...

อืม เพิ่งมาเจอเหมือนกัน
ได้อ่านเรื่อง๑ ชีวิต ที่เฉียดตาย มา ๒ ครั้ง อยู่รอดได้เป็นบุญนะท่าน
นี่ช่วงมีหนี้สินมาก ๆ อยากฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่ก็รอดมาได้ มาคิดได้ถึงเวลา เขาก็มาเอาเองแหละ
ให้ใครได้ก็ให้เถอะ อนุโมทนาด้วยกับท่านจริง ๆ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณลักข์ครับ
คนมีชีวิตแม้จะเป็นทุกข์บ้าง
แต่ก็น่าจะดีกว่าคนตายแล้ว
เพราะคนที่ยังไม่ตายสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้
ความสุขจากการได้ช่วยเหลือคนอื่นเป็นของจริงที่สัมผัสได้
ความสุขเช่นนี้คนตายแล้วทำให้ตัวเองไม่ได้หรอกครับ
ต้องรอรับความสุข(ส่วนบุญ)ที่คนอื่นส่งไปให้เท่านั้น

Unknown กล่าวว่า...

ขอให้คุณพระคุ้มครองนะคะ...ความสุขใจหาซื้อไม่ได้ค่ะ...ประทับใจweนี้มากค่ะ...ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอให้บุญกุศลที่ท่านได้ให้กับบุคคลอื่นจงบันดาลให้ท่านหายจากโรคภัยต่าง นะคะ.....วศินี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อาจารย์พิพัฒน์คะ
เข้ามาหาความรู้ข้อมูลต่างๆใน blog นี้มานานแล้วล่ะค่ะ แล้วก็อยากรู้จักว่า Blogger นี้เป็นใคร ตอนนี้สมใจแล้วค่ะเพราะคุณเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังแล้ว อ่านทุกตัวทุกบันทัดด้วยความรู้สึกขอบคุณที่อุตส่าห์ทำ blog นี้เป็นวิทยาทานให้ความรู้แก่คนทั่วไปนะคะ ขอให้ผลบุญนี้ส่งให้คุณมีแต่ความสุข ความเจริญ ห่างไกลโรคภัย คิดหวังอะไรให้ได้สิ่งนั้นค่ะ .....สุวรรณา

Seeker กล่าวว่า...

ขอให้ผลบุญที่ได้ทำให้แก่ผู้ือื่น ส่งผลให้คุณพิพิฒน์หายป่วย และขอให้คุณพระศรีรัตนศาสดาราม คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครอง ให้หมดทุกข์หมดโศก หมดโรค หมดภัย ขอขอบคุณสำหรับเวปดี ๆ แบบนี้ค่ะ

Chayanut กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากครับ

สิ่งที่ท่านทำเป็นประโยชน์กับพวกผม คนรุ่นลูก รุ่นหลานได้มีช่องทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษ ด้วยคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เพิ่งจะได้เจอเว็บบล็อกนี้ เพราะต้องการหาเกมส์อักษรไขว้ ให้ลูกชายอายุ 8 ขวบ ฝึกจำคำศัพท์ เคยพบที่บล็อกนี้ แต่กลับมาอีกทีไม่พบแล้ว เห็นเรื่องที่อยากเล่านี้ เป็นประโยชน์แต่คนอ่านค่ะ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว
สิ่งดีๆ ในชีวิต ไม่ได้มีแค่สิ่งที่ดีเท่านั้น
ทุกๆ การกระทำในอดีต ส่งผลสู่ปัจจุบันและอนาคต
อานิสงห์ของการชี้แนะและให้ความรู้ยิ่งใหญ่ค่ะ

แม้แต่ผู้ที่มีหน้าที่ให้ความรู้โดยอาชีพ (เช่น ครู อาจารย์) ก็ยังได้รับอานิสงฆ์เหล่านั้นด้วยแม้จะได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้าง

pipat - blogger กล่าวว่า...

ถ้าต้องการปริศนาอักษรไว้ ลองดูที่ 2 ลิงค์นี้นะครับ
-crossword ที่แนะนำในบล็อกนี้
-หลายเว็บเรียนภาษาอังกฤษ สำหรับเด็ก

torrik กล่าวว่า...

ขอบคุณพิพัฒน์มากเลยครับที่จัดทำ blog นี้ขึ้นมา
ตัวผมสนใจภาษาอังกฤษมานานแล้ว แต่บางครั้งไม่รู้จะทำยังอย่างไรให้เก่งขึ้นมาได้ จนกระทั่งได้เข้ามาอ่านใน blog นี้ ทำให้ผมรู้แนวทางที่จะทำให้ผมพัฒนาขึ้นมาได้ ผมติดตามอ่านมาเกือบๆปีแล้วครับ เข้ามาทุกวัน ดูว่ามี update อะไรบ้าง ซึ่งเนื้อหาที่คุณพิพัฒน์หามานั้นผมบอกได้เลยว่าครอบคลุมทุกๆสิ่งในภาษาอังกฤษทั้ง listen ,read, write , speak skill เหมาะกับคนที่ต้่องการมากๆ สำหรับตัวผมแล้วผมยก blog นี้ให้เป็น blog อันดับหนึ่งในการสอนภาษาอังกฤษเลยครับ

ขอบคุณมากๆครับ

ทั้งนี้ผมรบกวนสอบถามคุณพิพัฒน์ด้วยครับว่าพอจะอธิบายเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้ mind map ได้มั้่ยครับ พอดีเห็นว่า mind map คือการจัดระบบความคิดต่างๆ หากเรานำมาประยุกต์กับการเรียนภาษาอังกฤษน่าจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วยิ่งขึ้น พอดีผมลอง search หาใน google แล้วแต่ยังได้ไม่มาก ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำได้มั้ยครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ

KruJiab กล่าวว่า...

ดีใจที่ได้รู้จักอาจารย์พิพัฒน์นะคะ แวะเข้ามาบ่อยมากขอบคุณอาจารย์มากๆเลยค่ะ ขอบุญกุศลที่อาจารย์มีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยผู้อื่นส่งให้อาจารย์สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงในเร็ววันนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากครับสำหรับความเพียรพยายาม วิริยะอุตสาห์ของอาจารย์ ขอบุญกุศลส่งให้อาจารย์มีสุขภาพดี แข็งแรงในเร็ววันนะครับ

Papatsorn กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารญืพิพัฒน์ มากเลยค่ะ ปรกติ ดึงแต่เนื้อหา แต่วันนี้ลองอ่านบทความของผู้เขียน รู้สึกซาบซึ้งใจมากเลยค่ะ ขอให้พระคุ้มครองน่ะค่

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รู้สึกซาบซึ้งมากครับ ขอยกย่องและนับถือความแข้มแข็งของอาจารย์ อาจารย์ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ผมจะตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษและขอนำอาจารย์เป็นแบบอย่างในชีวิตต่อต่อไปครับ ขอบคุณอย่างยิ่งครับ ภาณุพงศ์

กระดาษทรายน้ำ กล่าวว่า...

ดีใจนะค่ะ ที่มีคนที่รู้จักแบ่งปันความรู้ให้กับเพื่อนมนุษย์โดยไม่ได้หวังถึงผลประโยชน์ และมีมุมมองในการมองโลกที่ดี ซึ่งน้อยคนในสมัยนี้จะเป็น "ขอบคุณจริงๆค่ะ"

แอน กล่าวว่า...

ในที่สุดก็คอมเม้นได้ซักที เย้ๆ เพิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรกค่ะ ตอนนี้หนูเรียนอยู่ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนค่ะ ช่วงนี้ปิดเทอมก็เลยอยากฝึกภาษาอังกฤษอย่างจิงจัง ค้นหาในกูเกิ้ล พอดีเห็นลิ้งก็คลิกเข้ามาค่ะ ปกติแล้วเวป blogspot youtube Facebook ที่จีนจะเข้าไม่ได้ค่ะ ต้องใช้โปรแกรมในการเปิด รวมทั้งดาวน์โหลดบางลิ้งต้องลุ้นกันตัวโก่งว่าจะดาวน์โหลดสำเร็จไหมเพราะโปรแกรมไม่ค่อยจะเสถียร ลำบากพอสมควรเลยค่ะ แต่คุ้มค่ามากๆค่ะ เห็นบล๊อคนี้แล้วน้ำตาคลอเลยค่ะ ซาบซึ้งมากๆที่อาจารย์พิพัฒน์ได้ทำไว้ให้เป็นประโยชน์ขนาดนี้ มีลิ้งข้อมูลมีบทความ ประสบการณ์ของอาจารย์ โอโห ละเอียดมากๆ รู้สึกว่าอาจารย์ทำไว้ขนาดนี้เพื่อคนไทย อาจารย์อยากให้คนไทยมีตัวช่วยในการเรียนภาษาอังกฤษ ประทับใจมากๆค่ะ ขอขอบพระคุณในน้ำใจของอาจารย์ค่ะ และขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ถ้าคุณแอนได้รับประโยชน์จากบล็อกนี้ผมก็ดีใจครับ และขอขอบคุณในคำอวยพรเรื่องสุขภาพ
พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารย์ นะครับที่ได้เสียสละเวลา และ อุทิศตัว
ให้กับผู้ที่สนใจภาษาอังกฤษ ซึ่งผมก็จะพยายาม นำสิ่งที่อาจารย์สอนมาฝึกฝน ให้สำเร็จให้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีก็ตาม ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอเรียกอาจารย์ด้วยอีกคนคะ.ขอบคุณอาจารย์มากคะ.ไม่คิดว่าจะมีเวปไหนที่มีประโยชน์ได้มากขนาดนี้สำหรับคนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษคะ.เวลาเข้าอ่านblogของอาจารย์.บางทีก็อยากรู้ทุกเรื่องเลยคะ.เลยเข้าตอนนั้นที.ตอนนี้ที.แต่เดี๋ยวนี้รู้แล้วคะ.ค่อยๆทยอยอ่านไปทุกๆวัน.ความรู้ที่อาจารย์ส่งต่อให้มีประโยชน์มากคะ.ตอนเด้กๆชอบภาษาอังกฤษมากคะ.แต่ช่วงที่เรียนหนักทำให้ไม่สามารถฝึกภาษาได้(จริงแล้วเป็นข้ออ้างมากกว่าคะ)ตอนนี้blogของอาจารย์กลับมากระตุ้นความฝันเดิมให้ขยันและมั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษอีกครั้ง.ชอบคำนี้ของอาจารย์มากคะ."ทุกๆวันคือกำไรชีวิต"ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงนะคะ//วีรยา

Fernando กล่าวว่า...

-ขอบคุณนะครับอาจารย์ ชอบมากเลยครับ

ผมเองก็พยายามฝึกภาษาอังกฤษอยู่ครับ พยายามอ่านบทความเยอะ ฟังเยอะๆ ล่าสุกก็หัดทำบล็อกที่ผมไม่มีความรู้เรื่องการทำเว็บเลยครับ ก็blogspot นี่แหละที่พอจะง่ายหน่อย
ผมทำเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทสไทยครับ ไม่ได้นำเสนอแต่เรื่องท่องเที่ยวแต่ทุกอย่างที่เกดิขึ้น เกี่ยวกับประเทศไทย ถ้าว่างก็เขียนครับไม่ว่างก็พักก่อน บางส่วนก็ไม่ได้เขียนเองแต่เป็นการ rewrite บทความของผู้อื่นโดยปรับให้เข้ากับเราและความต้องการสื่อสารของเราครับ
ลองแวะชมได้นะครับ กากไปน่อยแต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำแล้วครับ
http://thaifernando.blogspot.com/

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณครับคุณ Fabio ที่เขียนมาเล่าสู่กันฟัง - พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นความคิดและการกระทำธรรมดา ... ที่น่านับถือค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก เนื่องจากตามหาเกมส์ต่อศัพท์ในคอมฯให้ลูกสาว เลยมาเจอบล๊อกที่ดีและผูู้เขียนที่มีจิตวิญญาณของการเป็นผูู้ให้อย่างสูง ขอบคุณมากๆค่ะ ที่ทำบล๊อกนี้ เพื่อเด็กไทยและคนไทยใฝ่รู้อีกมากมายได้มีโอกาสพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ขอให้คุณงามความดีที่เป็นกุศลนี้ ช่วยปกปักรักษาอาจารย์ได้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงด้วยค่ะ..กิตติยา..

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ - พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับ บทความและข้อคิดดีๆ โดยเฉพาะบทความนี้ที่ทำให้ทราบถึงตัวตนของอาจารย์พิพัฒน์มากขึ้น เข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าการที่จะเก่งภาษาอังกฤษ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแรงบันดาลใจและต้นแบบของความวิริยะ สุดท้ายนี้ ขอให้ความดีและกุศลทั้งหลายนี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังให้อาจารย์พิพัฒน์ต่อสู้กับโรคภัยทั้งปวงนะคะ//แนน

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณในเมตตาจิตและคำอวยพรครับ - พิพัฒน์

PaPi_Pang กล่าวว่า...

ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ สำหรับความรู้ภาษาอังกฤษที่อาจารย์ได้รวบรวมไว้ให้ หนูเป็นคนเด็กคนหนึ่งที่ชอบภาษา และฝันอยากจะท่องโลกกว้าง แต่วินัยในการฝึกฝนนั้นเป็นตัวบั่นทอนความฝัน ..ตอนนี้หนูเพิ่งเรียนจบคะ ดีใจมากคะที่รู้ว่าอาจารย์ก็เป็นรุ่นพี่ธรรมศาสตร์เหมือนกัน ธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน หนูเชื่อเลยคะว่าอาจารย์มีความเป็นธรรมศาสตร์อยู่สูง การเป็นผู้ให้ของอาจารย์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ หนูซึ้งใจมากๆ เลยคะ และนี่เป็นครั้งแรกที่หนูได้เข้ามา Blogนี้ โดยการเซิจ คำว่า "เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง" ..หนูรู้แล้วละคะ ว่าหลังจากนี้ หนูจะหาความรู้ได้ที่ไหน และต่อจากนี้หนูจะสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจ ให้มากขี้น จะต้องฝึก และฝึก เพราะถ้าเมื่อใดที่เราไม่ลงมือทำ ความฝันมันก็จะไม่เป็นจริงสักที ,,ขอบคุณอาจารย์มา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่สิ่งดีดีนะคะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ดีใจจัง... ดีใจจริง ๆ ที่มีน้องธรรมศาสตร์เข้ามาทักทาย

พยายามไปเถอะ ฟ้าไม่รานน้ำใจคนพยายามหรอก

ถ้ามีเวลา ลองอ่านที่พี่คุยไว้ที่นี่นะ
เพื่อกำลังใจในการเรียนภ.อังกฤษ

ขอให้น้องประสบความสำเร็จ เพราะทำดีด้วยใจสู้

พี่พิพัฒน์

#Bumberlin กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะอาจารย์พิพัฒน์

บุ๋มขอกราบขอบพระคุณอาจารย์จากใจจริง ๆ เลยค่ะที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดความรู้,เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษโดยไม่คิดมูลค่าใด ๆ เลย แถมยังมีลิงค์เรียนอังกฤษที่ดีหลากหลายจริง ๆ ค่ะ ขอให้บุญกุศลจากความเมตตากรุณาแบ่งปันวิทยาทานอันเป็นประโยชน์มหาศาลเหล่านี้ ส่งผลให้อาจารย์หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บในเร็ววัน มีความสุขกายสบายใจรวมถึงภรรยาและทุก ๆ คนในครอบครัวของอาจารย์ด้วยนะคะ

ด้วยความเคารพยิ่ง
จาก บุ๋ม ค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณนะจ๊ะในคำอวยพรจากแดนไกลถึงเบอร์ลิน
พี่ได้อะไรหลายอย่างจากน้อง
-ชีวิตก้อเหมือนกับ ท้องฟ้า.
-ไม่มีคำว่า..แพ้.. หากว่าเราได้เริ่ม
-http://www.myfirstbrain.com/student5.aspx
พิพัฒน์

#Bumberlin กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะอาจารย์ พิพัฒน์

ขอบพระคุณค่ะที่อาจารย์เมตตาเรียกแทนตัวเองว่าพี่ บุ๋มดีใจระคนงงๆ ค่ะ ที่ดีใจเพราะอาจารย์ได้ประโยชน์จากข้อมูลที่บุ๋มเองก็ยังลืมไปแล้วว่าเก็บไว้(ที่ไหน)^^ ส่วนที่งงๆ เพราะอาจารย์เจอข้อมูลพวกนี้ยังงัย(บุ๋มหาเองตอนนี้ก็ยังไม่เจอเลยค่ะอาจารย์^_^) เดิมบุ๋มก็นับถืออาจารย์ด้วยใจจากการให้วิทยาทานอยู่แล้วนะคะ มาถึงตรงนี้บุ๋มยิ่งต้องขอคาราวะอาจารย์พิพัฒน์ ในเรื่องการค้นหาข้อมูลด้วยค่ะ ^_/||\_^ อาจารย์เก่งจริง ๆ เลยค่ะ

ด้วยความเคารพยิ่ง(จริง ๆ ค่ะ)
บุ๋ม

pipat - blogger กล่าวว่า...

เฉลย ว่ารู้ได้ยังไง
1.คลิก Bum Kunlayanee
2. สองหัวข้อข้างล่างนี้ก็อยู่ในหน้านั้นเรียบร้อยแล้ว
ชีวิตก้อเหมือนกับ ท้องฟ้า...
ไม่มีคำว่า..แพ้.. หากว่าเราได้เริ่ม
3.คลิกที่ MyFirstBrain.Com - เทคนิคการเขียน Resume ภาษาอังกฤษ ให้ได้งาน »ซึ่งก็อยู่ในหน้านั้นเช่นกัน
และคลิกที่ ภาษาอังกฤษ ที่คอลัมน์ซ้ายมือ
ก็เท่านี้เอง ง่ายมาก
-พิพัฒน์-

javasci กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับสำหรับสิ่งดีๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไมปีนี้อาจารย์พิพัฒน์ ถึงไม่เขียนบทความใหม่ๆเลยค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณเห็นบรรทัดบนสุดของบล็อกนี้ไหมครับ ที่เขียนว่า
เชิญคลิกที่นี่ เพื่อไปที่เว็บใหม่ www.e4thai.com

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ติดตามมานานแต่เว้นวรรคอยู่บ้างเมื่อเดินทางไปอบรม แม้ไม่ได้ตั้งเป็น link ที่เครื่องคอม เพราะเปลี่ยนคอมบ่อย ก้อไม่เคยลืมยังสามารถคิลีกประโยคและเข้ามาเจอลิ้งคือาจารย์ดดยอัตโนมัติเสมอ ขอบคุณที่ถ่ายทอดและนำเสนอข่าวข้อมูลดีๆ สู่น้องและเด็กไทยรุ่นหลังๆ ได้มีโอกาสเพิ่มพูนเทคนิคต่างๆค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับพี่ พิพัฒน์ ขอเรียกว่าพี่เลยแล้วกันนะครับ ... ขอให้พี่มีความสุขมากๆ และ มีสุขภาพดี แข็งแรง นะครับ .... ผมเป็นคน ลาว ครับ เข้ามาอ่าน แล้วก้อรู้สืกประทับใจมากๆ รู้สืกขอบคุญมากๆ ถ้าเขียนภาษาไทยไม่ถูกยังไงก้อขออภัยด้วยนะครับ ....