วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

[2395] วิธีฝึกพูดคุย –ฝึกเล่าเรื่อง กับคอมฯ โดยไม่มีครู




สวัสดีครับ
 ถ้ามีครูสอนพูดภาษาอังกฤษก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีก็ใช่ว่าจะโชคร้าย  เพราะเราสามารถให้คอมฯสอนแทนได้ ขอเพียงให้เราเป็นลูกศิษย์ที่ดีสักหน่อย  อย่าดื้อนัก  เรียนกับครูคอมฯก็อาจจะได้ผลไม่แพ้เรียนกับครูคนก็เป็นไปได้

ที่ยากที่สุดไม่ใช้เนื้อหาที่จะเรียน  แต่คือใจที่จะเรียน  ถ้าเรียนด้วยใจที่ยอมแพ้ท้อแท้ตั้งแต่ต้น,  ใจที่ร้อนรนกระวนกระวาย,  ใจที่หิวเกินเหตุ, ใจที่อยากเก่งเกินอยากฝึก, ใจที่อายไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิด, ใจที่อ่อนแอไม่รู้จักอึด, เพียงแค่รู้สึกเซ็งท้อเหนื่อยเล็กๆน้อยๆก็หยุดง่าย ๆ,  เรียนอย่างคนที่ใจไม่มีกระดูก ฯลฯ  ถ้าเรียนด้วยใจอย่างนี้  ต่อให้มีบทเรียนและครูที่ดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใดก็คงเรียนไม่ได้เรื่อง

บทเรียนส่วนใหญ่สำหรับฝึกพูดคุย –ฝึกเล่าเรื่อง กับคอมฯ    ไม่เหมาะสำหรับคนใจนิ่ม ๆ ชอบแต่ของง่าย ๆ ใช้ความพยายามเพียงน้อยนิด แต่ฝันหวานให้เก่งปุ๊บปั๊บฉับพลัน หลายคนชอบเรียนภาษาอังกฤษอย่างคนซื้อลอตเตอรี่ คือเสียเงินซื้อแค่ 110 บาทแต่หวังรางวัลที่ 1 เป็นล้านๆ   คนอย่างนี้มีเยอะ  เป็นคนขี้เกียจที่ขี้แพ้   แต่เราอย่าเป็นคนอย่างนั้นเลยครับ

การพูดโดยทั่วไป มี 2 อย่าง คือ  พูดคุย และ พูดเล่าเรื่อง 
การพูดคุย -คือพูดทีละวรรค ทีละประโยค เธอพูดที  ฉันพูดที
การพูดเล่าเรื่อง – ระหว่างที่พูดคุยนั้น บางจังหวะเราก็มี story ที่ต้องเล่า และต้องเล่ายาว ๆ คราวละหลายประโยค
การฝึกพูด จึงต้องพูดให้ได้ทั้ง 2 อย่าง  คือ  พูดคุย และ พูดเล่าเรื่อง

ถ้าเรามีครูที่สอนเก่ง ๆ ก็ถือว่าโชคดี เพราะว่าเราเป็นคน  เราจึงอยากเรียนกับคนซึ่งเป็น species เดียวกันมากกว่าเรียนกับคอมฯ ซึ่งเป็นสัตว์ต่าง species, นอกจากเนื้อหาของความรู้แล้ว เรายังได้ความมั่นใจ ความอบอุ่นใจ กำลังใจ และความใกล้ชิด  เราได้เห็นครูเดินไปเดินมา ได้ยินเสียงครูพูด ได้เห็นปากครูขยับตอนพูด ได้เห็นครูตอบโต้เราเมื่อเราพูดกับครู ฯลฯ บรรยากาศในห้องเรียนทำนองนี้เป็นบรรยากาศอัน “ศักดิ์สิทธิ์” ที่ทำให้ผู้ใหญ่ที่ผ่านวัยห้องเรียนมาก่อนมีความรู้สึกฝังใจว่า ถ้าจะเรียนพูดภาษาอังกฤษให้เป็นและเก่ง จะต้องผ่านบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของห้องเรียนที่ขาดครูไม่ได้ เหมือนเข้าไปกินอาหารที่ร้านสุกี้  กลางโต๊ะก็ต้องวางหม้อต้มน้ำซุปเพื่อปรุงสุกี้  ขาดหม้อสุกี้จะเรียกว่ากินสุกี้ได้อย่างไร?  ขาดครูสอนภาษาอังกฤษจะพูดภาษาอังกฤษให้เป็นได้อย่างไร?

ผมขอบอกว่า ขอให้ท่านลบล้างภาพเดิมออกไปให้สิ้น การเรียนกับครูนั้นเป็นเรื่องดีถ้ามีครูให้เราเรียนด้วย     แต่ถ้าด้วยความขัดข้องอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้การฝึกพูดภาษาอังกฤษของเราในวันนี้ไม่มีครูที่เป็นคน  มีแต่ครูที่เป็นคอมฯ  ผมขอบอกว่า เราก็ยังสามารถเรียนกับครูคอมฯ ใน “คอร์สส่วนตัว” ที่บ้านของเราได้  

การเรียนพูดภาษาอังกฤษกับครูที่เป็นคอมฯ ต้องทำยังไงบ้าง ต้องทำอย่างนี้ครับ
1.  มองให้เห็นความจริง  และเชื่อในความจริงนี้ว่า เรียนกับคอมฯก็ได้ผลไม่แพ้เรียนกับครู  มีแต่ใจที่กล้าหาญฮึกเหิมเช่นนี้เท่านั้นแหละครับ ที่จะเรียนได้ผล
2. ให้หูทำงานเป็น 2 เท่า, เมื่อเราเรียนกับครูในห้อง  เรามีตาช่วยทำงาน และมีบรรยากาศในห้องเรียนเป็นตัวช่วย หรือ  accessory แต่เมื่อเรียนกับคอมฯ เรามีแค่ 2หูล้วน ๆเท่านั้นเป็นเครื่องมือสำหรับเรียน  เพราฉะนั้น  เราจึงต้องเอาสมาธิไปแปะไว้ที่รูหู รอจับคลื่นเสียงที่จะผ่านเข้าไปให้อยู่หมัด ถ้าครั้งที่ 1 ยังจับไม่ได้  ก็ฟังซ้ำครั้งที่ 2, 3, 4, 5 …. เป็น 10 ๆ ครั้งก็ฝึกฟังไปเถอะครับ  โดยให้ท่านคลิก play/pause, backward, forward เท่าที่ต้องการ  ในแง่นี้ครูคอมฯ ใจดีกว่าครูคนซะอีก เพราะถ้าครูเป็นคน เมื่อเราฟังไม่ทัน, ฟังไม่รู้เรื่อง, หรือฟังจับสำเนียงหรือถ้อยคำไม่ชัด เราคงเกรงใจไม่กล้าขอให้ท่านพูดซ้ำ ๆ เป็น 10 ครั้ง  แต่ครูคอมฯ เราขอให้ท่านทำได้ และท่านก็ไม่โกรธ
3.เว็บฝึกพูดภาษาอังกฤษมากมาย มีทั้ง mp3 ให้เราคลิกฟัง และข้อความเป็นประโยคให้เราอ่าน  เราจะฝึกอย่างไรก็ได้ตามใจเรา  เช่น
-ฝึกฟัง และพูดตาม (play/pause) โดยไม่ต้องอ่าน
-ฝึกฟังและพูดตาม (play/pause) และพูดตามโดยอ่านประโยคไปพร้อมกัน
-ฝึกอ่านประโยคสนทนาให้เข้าใจกระจ่างเสียก่อน  แล้วจึงฝึกฟังและพูดตาม (play/pause) โดยไม่ต้องเหลือบไปดูอีก
-ฝึกฟังและพูดตาม โดยในครั้งแรก ๆ ก็อ่านตาม, แต่ครั้งหลัง ๆ ชักเก่งขึ้น ก็ไม่ต้องอ่าน
Tip: บางเว็บ เมื่อเราคลิกไฟล์ mp3 เพื่อฟัง เราอาจจะต้องให้มันเปิดใน tab ใหม่ (open in new tab) เพื่อจะได้สามารถอ่าน transcript ในหน้าต่างเดิม
4.อย่ามี “มิจฉาทิฐิ” เข้าใจไปว่า ฟัง “ไม่รู้เรื่อง”  คือ “ไม่ได้เรื่อง” เพราะว่า จริง ๆ แล้วมันได้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่อาจจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนั่นแหละครับ ข้อนี้ผมขอไม่อธิบาย ท่านลองฝึกฟังไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนี้ว่าหมายความว่าอย่างไร
5.ฝึกฟัง-ฝึกพูดตาม ทุกวัน ทั้งวันที่อยากเรียน และวันที่เบื่อเรียน วันละเท่านั้น-เท่านี้นาที ตามที่ตั้งเป็นการบ้านไว้ให้ตัวเอง  (สำหรับผม, ผมตั้งใจว่า จะฝึกฟังทุกวัน ๆ ละ 20 – 30 นาที) ถ้าวันใดขยันท่านจะฝึกเยอะ ๆ ก็ตามใจ   แต่ถ้าวันใดไม่มีเวลา-เหนื่อย-เบื่อ-ขี้เกียจ ก็ฝึกให้ได้ minimum เช่น 15 นาทีตามที่ตั้งใจไว้
ขอให้ทำให้กิจกรรมการฝึกภาษาอังกฤษเป็นกิจวัตรอันศักดิ์สิทธิ์ อานิสงศ์จะส่งเสริมโดยเราอาจจะไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ (คำว่า ศักดิ์สิทธิ์ แปลว่า ตั้งใจแล้วต้องทำให้ได้)
6.ถ้าต้องการดิกชันนารี ไปที่นี่ครับ www.online-english-thai-dictionary.com

ท่านใดอ่านมาถึงบรรทัดนี้ และต้องการทำให้การฝึกฟัง-ฝึกพูดภาษาอังกฤษเป็นกิจวัตรประจำวันอันศักดิ์สิทธิ์ เชิญไปที่เว็บข้างล่างนี้ครับ (ยกมาพอเป็นตัวอย่าง)

1.เว็บฝึกพูดคุย
เลือกที่วลีและศัพท์ เพื่อฟังเสียง
เว็บ 1
เว็บ 2
เว็บ 3
http://www.manythings.org/audio/sentences/1227.html   ()คลิก Refresh หรือ Random Page เพื่อเปิดหน้าใหม่

2.เว็บฝึกการพูดประโยคเพื่อเล่าเรื่อง
Listen and Read Along (Flash/MP3)
ในหน้านี้มี 2 คอลัมน์ คือซ้าย  กับ ขวา
ในคอลัมน์ซ้ายมือ มีคำอธิบายการใช้งานดังนี้
เมื่อคลิกที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ท่านจะเห็นว่า  ที่กลางหน้ามีวงกลมอยู่ 5 วงกลม ดังภาพนี้
ซึ่งแต่ละวงกลมมีความหมาย จากซ้ายไปขวาดังนี้
วงกลม 1: ย้อนถอยหลังไปยังประโยคแรก
วงกลม 2: ย้อนหลังไป 1ประโยค
วงกลม 3: Play/Pause
วงกลม 4: เดินหน้าไป 1 ประโยค
วงกลม 5: คลิกเพื่อกำหนดว่าจะฟังกี่เที่ยว (1,2,3 เที่ยว, เลข 8 นอนตะแคง คือฟังประโยคนั้นซ้ำ ๆ ตลอดไป)
ท่านสามารถคลิก play/pause เพื่อฟัง ทีละ 1 ประโยค หรือถ้าต้องการฟังแค่ 1 วรรค ก็คลิก pause ให้หยุดและฝึกพูดตามทีละวรรคก็ได้

ในคอลัมน์ขวามือ
มีคำอธิบายการใช้งานดังนี้
เมื่อคลิกที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ท่านจะเห็นว่า  ที่กลางหน้า         มีภาพดังนี้

-เสียงที่ท่านได้ยินจะเป็นประโยค สีดำ
-ถ้าท่านต้องการฟังประโยคใด ก็คลิกที่ประโยคนั้นได้ (คือ คลิกฟังซ้ำ, ตลิกฟังประโยคย้อนหลังที่ฟังแล้ว, หรือคลิกฟังประโยคที่อยู่ข้างหน้า)
-เมื่อฟังแล้วก็คลิก pause ให้หยุดก่อนเพื่อฝึกพูดตาม และจึงค่อยคลิก paly

ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการฝึกพูดคุย –ฝึกเล่าเรื่อง กับคอมฯ โดยไม่มีครู 

พิพัฒน์
 

ไม่มีความคิดเห็น: