วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

[190]หัวข้อการฝึกพูด[ต้อง‘ได้พูด’ ถึงจะ ‘พูดได้’]

สวัสดีครับ
ผมเข้าใจว่าทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษต้องการพูดได้ หลายคนเขียนมาถามว่าทำยังไงถึงจะ ‘พูดได้’ คำตอบของผมสั้นมาก คือ ต้อง ‘ได้พูด’ ถึงจะ ‘พูดได้’

คำถามต่อเนื่องคือ ไม่มีฝรั่งจะให้พูดด้วย จึงไม่มีโอกาส ‘ได้พูด’ แล้วจะทำยังไง? คำตอบของผมก็สั้นอีกเช่นกัน คือ ต้องหาคนที่จะพูดด้วยให้ได้ ถ้าหายากจริง ๆ ก็หากลุ่มเพื่อนสนิทที่รู้ใจ 2 – 3 ฝึกพูดกันเอง แต่ถ้าถึงขั้นนี้ก็ยังหาไม่ได้ ก็ฝึกพูดคนเดียวนั่นแหละครับหมดเรื่องหมดราวไปเลย วันละสัก 5 – 10 นาทีก็ได้ รับรองว่าไม่เท่าไรก็ ‘พูดได้’ เพราะว่าเรา ‘ได้พูด’

และจะพูดเรื่องอะไรล่ะ?
สองลิงค์ข้างล่างนี้ คือคำถามหรือหัวข้อให้ท่านเลือกฝึกพูด เลือกเอาตามสบายเลยครับ
http://iteslj.org/questions/
http://www.eslpartyland.com/teachers/nov/conv.htm

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การฝึกพูดควรจะทำไปพร้อม ๆ กับการฝึกฟังและฝึกอ่าน ซึ่งท่านสามารถฝึกได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ มีมากมายให้ท่านเลือก

การฟังทำให้เราได้ ‘สำเนียง’ - การอ่านทำให้เราได้ ‘สำนวน’ ถ้าเราทั้งฟังและอ่าน เราก็จะได้สำเนียงและสำนวนมาฝึกพูด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกพูดกับเพื่อนหรือฝึกพูดคนเดียวก็ตาม
คลิก: ฝึกฟัง
คลิก: ฝึกอ่าน

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สุภาษิตนี้ยังเป็นจริงอยู่เสมอครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อหลายวันก่อน หนูไม่สบายหนักค่ะ ทำให้ต้องอยู่บ้านรักษาอาการอยู่หลายวัน แล้วยังไม่ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ลงคอร์สไว้อีกด้วย หนูก็เลยเข้ามาหาความรู้เพิ่มเติม เลยได้รู้จักblogของคุณpipatโดยบังเอิญ หนูอ่านทีละเรื่องของคุณก็ชอบมากๆ สนุกมากเลยคะ และคิดว่ามีประโยชน์มากๆด้วย เลยมาฝากความคิดเห็นไว้ ว่าอยากขอบคุณมากเลยค่ะ เพราะหนูได้ความรู้เยอะเลยทีเดียว การไม่สบายก็ดีเหมือนกันค่ะที่ทำให้หนูรู้จักแหล่งหาความรู้ใหม่ๆจากblogของคุณ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

Nit กล่าวว่า...

แหล่มเลย!โดนตรง ก่อนพูดได้ ต้อง ได้พูด เป็นอะไรที่เข้าใจในวลีเดียว ขอบคุณครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ Nit ครับ
จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เฉพาะเรื่องพูด แต่มันคือทุกเรื่อง คือ
ก่อนพูดได้ ต้อง ได้พูด
ก่อนฟังได้ ต้อง ได้ฟัง
ก่อนอ่านได้ ต้อง ได้อ่าน
ก่อนเขียนได้ ต้อง ได้เขียน
สรุปก็คือ ก่อนทำได้ ต้อง ได้ทำ

ลองผิด มาก่อน ลองถูก
เพราะเมื่อเราทำผิด เราก็ได้เรียนรู้จากความผิด เพื่อจะได้ไม่ต้องทำผิดอย่างนั้นอีก

คนที่ไม่ยอมลงทุนอายเมื่อพูดหรือเขียนผิด ๆ ออกไป, ไม่ยอมลงทุนงงเมื่อฝึกอ่านและฝึกฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ก็คงยากที่จะได้กำไรจากการฝึก

มันเหมือนคำที่เราเคยพูดกันมาตั้งแต่เด็ก คือ ง.งู มาก่อน ฉ.ฉิ่ง - โง่มาก่อนฉลาด

เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ หลายคนก็ยอมรับแล้วว่า เราต้องฝึกเพื่อจะได้เก่ง แต่กลับพยายามน้อยเกินไป คือ นั่งอยู่เฉย ๆ รอให้โอกาสที่จะได้ฝึกวิ่งเข้ามาชน ไม่ขวนขวายไปแสวงหาโอกาสในการฝึก แล้วก็บ่นว่า ไม่มีโอกาสฝึก น่าเสียดายครับ

พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะทำตาม ครับ